สรรเสริญคนสวน Gardeners


จบเรื่องสวนด้วยภาพเกี่ยวกับคนสวน. พวกเขาคือหัวใจของสวน. ความงามของสวน คือบทสรรเสริญความขยัน ความอุตสาหะและความรอบรู้ของคนสวนมืออาชีพ. พวกเขาเป็นผู้เนรมิตสวรรค์บนดินให้เราได้เห็นได้สัมผัส ปูทางนำจิตวิญญาณให้เข้าใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ชโลมขวัญกำลังใจ และเตือนสติให้ใช้ชีวิตสอดคล้องกับธรรมชาติให้มากที่สุด เพื่อความสุขสงบของแต่ละคนและเพื่อการอยู่รอดของมนุษยชาติ.
จิตรกรรมกระจกสีที่โบสถ์ Saint Mungo เมือง Glasgow สก็อตแลนด์. คนยืนสวมหมวกปีกกว้าง(ที่ตั้งใจให้เหมือนหมวกชาวสวน) มือซ้ายถือจอบหรือเสียม มือขวายกขึ้น แบออก ชี้ไปในทิศทางหนึ่ง เห็นหีบศพเปิด ว่างเปล่า. สตรีผู้หนึ่งคุกเข่าที่พื้น ข้างหน้าเธอมีกระปุกเหมือนโถ มือขวายกขึ้นไปในทิศของผู้ชาย เธอคือนางมารีมัดเดอแลน.
ภาพนี้ในศิลปะตะวันตก เล่าเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ใหม่ว่า เช้าตรู่หลังจากวันที่พระเยซูถูกตรึงสิ้นใจบนไม้กางเขน นางมารีมัดเดอแลนมาที่สุสาน พร้อมกระปุกเครื่องหอมเพื่อมาชโลมร่างของพระเยซู พบหีบศพว่างเปล่า. นางเห็นชายคนหนึ่ง เหมือนคนสวน ร่างมีผ้าขาวบางคลุมไว้อย่างหลวมๆ มือถือจอบ. นางจำได้ว่านั่นคือพระเยซู ยื่นมือจะไปแตะตัวบุคคลที่นางแสนรักแสนเคารพ. ตอนนั้นเองที่พระเยซูคริสต์พูดขึ้นว่า Noli me tangere (แปลตามตัวภาษาละตินคือ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน หรือ อย่ายึดฉัน). และบอกให้นางไปกระจายข่าวว่าได้เห็นพระเยซูคริสต์ฟื้นคืนชีวิต. การถือเคียว(หรือจอบ)ด้ามยาวนั้น เพื่อสื่อความหมายว่า พระองค์ถูกส่งให้ลงมาพรวนดินไถนา ทำสวนปลูกต้นไม้ ซึ่งคือการปลูกเมล็ดแห่งศรัทธาในใจคน.
ในคริสตศิลป์ มีภาพในลักษณะนี้จำนวนมากในจิตรกรรมฝีมือชั้นครู ขนานนามภาพตอนนี้ว่า Noli me tangere (ดังเล่าไว้ในคัมภีร์เล่มของจอห์น 20:17).
จิตรกรรมของ Titian (1490-1576, ชื่ออิตาเลียนคือ Tiziano Vecellio) อยู่ที่ National Gallery (London, UK). พระเยซูคริสต์เอี้ยวตัว ดึงผ้าขาวไว้ ให้พ้นมือของนางมารีมัดเดอแลน.
จิตรกรรมของ Lambert Sustris แห่งอัมสเตอดัม (1515-1584) ภาพนี้อยู่ที่ Palais des Beaux Arts de Lille (Lille, France). เห็นสวนงามแบบแผนเป็นพื้นหลัง.
สวนงามเช่นนั้น จึงเป็นพระราชอุทยาน ความสำคัญของสถานที่ ทำให้จิตรกรบรรจงแสดงเครื่องแต่งกายของสตรีชนชั้นสูง(แม้ว่ามารี มัดเดอแลน เป็นเพียงหญิงสามัญชน) รวมถึงเครื่องนุ่งห่มของพระเยซูคริสต์ด้วย. ไม้ด้ามยาวที่ติดเหล็กงอนขึ้นตรงปลายนั้น ชาวสวนใช้ปักทิ่มลงบนพื้น ขุดและตักเอาก้อนดินขึ้นมา.


หน้าต่างกระจกสีอีกบานหนึ่งที่โบสถ์ Saint Mungo เดียวกัน เขียนข้อความไว้ว่า Gardening the first of arts เป็นหน้าต่างที่ผู้มีอาชีพทำสวน (gardeners) เป็นผู้บริจาคเงิน ทำหน้าต่างบานนั้น. ประดับด้วยภาพดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ จอบขุดดินและไม้คราดใบไม้เศษหญ้า อุปกรณ์คู่มือของคนทำสวน. น่าสนใจว่า เขาสดุดีทั้งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เพราะรู้กันแล้วว่า ทั้งสองมีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตของพืชพรรณบนโลก.
อาดัมกับอีฟ ยืนอยู่สองข้างต้นไม้ มีงูสีเขียวๆพันรอบต้น มีผลไม้ลูกกลมๆในหมู่ใบเขียวหนาแน่น. เล่าเหตุการณ์ที่ทั้งสองไม่เชื่อคำสั่ง อีฟถูกงู(ซาตาน)ยุให้เด็ดผลไม้กินจากต้นนั้น ที่พระเจ้าสั่งห้าม เป็น ต้นไม้แห่งความรู้ดีรู้ชั่ว. ผลคือทั้งสองถูกขับออกจากสวนสวรรค์ พระเจ้าสั่งให้ไปพรวนดิน เพาะปลูกเลี้ยงตัวเอง ให้อีฟทอผ้าเพื่อปกปิดร่างกาย เพราะกินผลไม้ต้องห้ามแล้ว เลยรู้จักอาย. ดังนั้น เท่ากับว่า ลูกหลานที่สืบเชื้อสายมา รู้ดีรู้ชั่ว รู้ถูกรู้ผิด รู้อารมณ์ทุกชนิด เป็น“คน”อย่างที่เราทุกคนเป็น. การที่ต้องทำไร่ไถนา จึงเป็นสิ่งที่พระเจ้าสั่งให้ทำ เพื่อว่าประสบการณ์ชีวิตในการทำนาทำสวนทำไร่ ผ่านความผันผวนแบบต่างๆใต้อิทธิพลของดิน น้ำ ลม ไฟและความไม่คงเส้นคงวาของอารมณ์ความรู้สึกของคนตลอดจนกิเลสตัณหาต่างๆ  คนจะไปถึงจิตวิญญาณขั้นสูง จิตสำนึกที่ลุ่มลึก ที่รู้จักประมาณตน รู้จับควบคุมตนเองมากขึ้นๆเช่นนี้เอง ที่เขาสรุปว่า การทำสวนเป็นศิลปะประการแรกที่มนุษย์พัฒนาขึ้น.
    อาดัมกับอีฟเคยอยู่อย่างสุขสบายในสวรรค์ ในหมู่สัตว์ทั้งหลาย ไม่มีทุกข์ ไม่มีภัย ปล่อยทั้งกายและวิญญาณในมือของพระเจ้า และทำตามที่พระเจ้าบอกเท่านั้น. เมื่อขัดขืนคำสั่งของพระเจ้า ตั้งแต่นั้นต้องคิดต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ตัดสินใจเอง เลือกทางเดินเอง แก้ปัญหาทุกประเภท ที่เกิดขึ้นได้ทุกวันทุกเวลา ทั้งในใจและในบริบทรอบตัว.
จนทุกวันนี้ มนุษย์ก็ยังสร้างปัญหา แก้ปัญหาต่อไปไม่มีวันสิ้นสุด
การล้มลุกคลุกคลาน สอนให้คนรู้ดีขึ้นๆ ทำอะไรถูกมากขึ้นประณีตขึ้น จนในที่สุดเนรมิตศิลปะได้. การทำไร่ทำนาทำสวน ได้สอนคนมาตั้งแต่ก้าวแรกที่ออกจากสวรรค์.

Alexander Pope ได้แนะนำการรังสรรค์สวนในบทกวีนี้ดังนี้
To build, to plant, whatever you intend,
To rear the Column, or the Arch to bend,
To swell the Terras, or to sink the Grot;
In all, let Nature never be forgot.
Consult the Genius of the Place in all
That tells the waters or to rise, or fall....
Joins willing woods, and varies shades from shades
Now Breaks, or now directs, th'intending
Lines; Paints as you plant, and as you work, Designs.

ใจความว่า << ไม่ว่าจะสร้าง จะปลูกอะไร จะตั้งเสาคอลัมภ์หรือจะดัดซุ้มให้โค้ง จะเพิ่มพืชพรรณบนระเบียง หรือจะขุดถ้ำให้ลึกลง ต้องไม่ลืมธรรมชาติ  ต้องปรึกษาเทวดาเจ้าที่ (ในทำนองว่า ให้สอดคล้องกับฮวงจุ้ยของสถานที่นั้น มิใช่ทำไปตามใจชอบ) ผู้ดลใจให้ยกระดับน้ำให้สูงขึ้นหรือลดให้ต่ำลง ให้เชื่อมผืนป่าหย่อมต่างๆ ให้สร้างร่มไม้แบบต่างๆ  ให้หักมุมเส้นทางเดินในสวน หรือให้ตัดตรงไป. (ในที่สุด) ให้ทำสวน เหมือนกำลังวาดภาพ กำลังดีไซน์ >>

องให้เห็นคนสวน หน้าสู้ดิน หลังสู้ฟ้า (Villa Taranto, Lago Maggiore, Italy)
คนนี้ก้มๆเงยๆ แต่งต้นกุหลาบ (Winter Garden, Helsinki, Finland)
คนนี้จับจ้องสังเกตการแตกหน่อ (Winter Garden, Helsinki, Finland)
คนนี้ดึงวัชพืชทิ้ง (Mainau, Germany)
คนนี้ดึงดอกเหี่ยวๆทิ้ง (อุทยาน Aranjuez, Spain)
กวาดมากองไว้ด้วยกันก่อน (Aranjuez, Spain)
ภาพนี้ไม่ได้ถ่ายต้นไม้ใบเขียวที่ขึ้นงาม ถ่ายคนสวนกวาดเศษใบไม้ไปเรื่อยๆ โดยไม่กังวลว่า ใบไม้ก็ร่วงหล่นลงเรื่อยๆ (Sanssouci, Potsdam, Germany)
คราดเศษใบไม้ ให้คราดความกังวลที่ร่วงลงๆ (Sanssouci, Potsdam, Germany)
เข็นเครื่องดายหญ้า เสียงดั่งสนั่น เขาให้สวมเครื่องปิดหูอย่างดี
(ที่ “ไร้กังวล” Potsdam, Germany)
คนนี้นั่งบนรถดายหญ้า ที่เก็บเศษหญ้าไปด้วยพร้อมกัน
(อุทยาน Schwetzingen, Germany)
รถกวาดถนนในฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ก็ร่วงได้ทุกนาที
(Nymphenburg, München, Germany)
ใต้ร่มต้น beech ขนาดใหญ่ ลำต้นเกลี้ยง ต้นนี้เรียก buche [บู้เขอะ] ในภาษาเยอรมัน และเป็นที่มาของคำว่า book ในภาษาอังกฤษ. เจ้าหน้าที่ทั้งทีมช่วยกันจัดการตัดกิ่งเกินๆออก เพื่อให้ต้นเติบโตสวยงาม (อุทยาน Schloss Branitz , Germany)
ส่วนต้นเกาลัดนี้สูงอายุมาก กิ่งก้านใหญ่แข็งแรง แต่มีหนึ่งกิ่งป่วย แกนกลางเริ่มเน่าคนสวนไปตัดให้ ช่วยเอาส่วนที่เจ็บป่วยออก ต้นไม้จะฟื้นตัวได้เร็ว (Stuttgart, Germany).
ตรงนี้ ผู้หญิงยืนเป็นตา บอกให้ช่างตกแต่งที่ยืนบนบันไดสูง ตัดให้เป็นพุ่มเป็นทรง สวยและเสมอกัน (อุทยานปราสาท Schwetzingen, Germany)
สวนหน้าสถานีรถไฟ Friedrichshafen เยอรมนี เจ้าหน้าที่เทศบาล ออกมาตัดกิ่งไม้เล็กๆออกจากต้นที่ปลูกเรียงรายบนถนนทั้งเมือง ป้องกันกิ่งไม้หัก เพราะรถทัวร์สูงๆวิ่งผ่านไปมา.
ต้นฤดูใบไม้ผลิ คนสวนเตรียมอุปกรณ์ ต่อร้านเพื่อตัดเล็มต้นไม้ให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมหรือรู้อื่นที่เหมาะสม ที่สวนสาธารณะ สวน Vrtba Garden เมืองปร๊าก สาธารณรัฐเช็ค
อุปกรณ์คนสวนเหนือทุ่งดอก“ฟันสิงโต” dandelion (Löwenzahn)
ที่สวนพฤกษศาสตร์เมืองฮัมบูร์ก (Botanischer Garten Hamburg)
 สองภาพนี้ เห็นมุมทำงานของคนสวน Gardeners’ Corner
ที่สวนพฤกษศาสตร์ Lost Garden of Heligan, Cornwall, England

คู่มืออีกชนิดหนึ่งของคนสวน หน้าสถานีรถไฟเมือง Apeldoorn เนเธอแลนด์ 
เมืองนี้เป็นที่ตั้งของพระราชวังและพระราชอุทยาน Het Loo ที่เป็นแบบอย่างสวนแบบแผนดัตช์ที่งามที่สุดในโลก (เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 1684). Het Loo เคยเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของกษัตริย์ราชตระกูล Orange-Naussau จนถึงปี 1962 จึงมอบพระราชวังให้เป็นสมบัติของชาติ. ทั้งพระราชอุทยานและพระราชวังกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดแก่สาธารณชนตั้งแต่ปี 1984.

Rudyard Kipling (1865-1936, นักหนังสือพิมพ์ นักเขียนเรื่องสั้น กวีและนักแต่งนวนิยายชาวอังกฤษ) ได้กล่าวสรรเสริญงานของคนสวน ของทุกคนที่รักสวน ในโคลงที่ชื่อว่า Glory of the Garden (1911) ดังนี้
OUR England is a garden that is full of stately views,
Of borders, beds and shrubberies and lawns and avenues,
With statues on the terraces and peacocks strutting by;
But the Glory of the Garden lies in more than meets the eye. 

For where the old thick laurels grow, along the thin red wall,
You'll find the tool- and potting-sheds which are the heart of all
The cold-frames and the hot-houses, the dung-pits and the tanks,
The rollers, carts, and drain-pipes, with the barrows and the planks.

And there you'll see the gardeners, the men and 'prentice boys
Told off to do as they are bid and do it without noise ;
For, except when seeds are planted and we shout to scare the birds,
The Glory of the Garden it abideth not in words.

And some can pot begonias and some can bud a rose,
And some are hardly fit to trust with anything that grows ;
But they can roll and trim the lawns and sift the sand and loam,
For the Glory of the Garden occupieth all who come.

Our England is a garden, and such gardens are not made
By singing:-" Oh, how beautiful," and sitting in the shade
While better men than we go out and start their working lives
At grubbing weeds from gravel-paths with broken dinner-knives.

There's not a pair of legs so thin, there's not a head so thick,
There's not a hand so weak and white, nor yet a heart so sick
But it can find some needful job that's crying to be done,
For the Glory of the Garden glorifieth every one.

Then seek your job with thankfulness and work till further orders,
If it's only netting strawberries or killing slugs on borders;
And when your back stops aching and your hands begin to harden,
You will find yourself a partner In the Glory of the Garden.

Oh, Adam was a gardener, and God who made him sees
That half a proper gardener's work is done upon his knees,
So when your work is finished, you can wash your hands and pray 
For the Glory of the Garden that it may not pass away!
And the Glory of the Garden it shall never pass away !

สรุปใจความว่า
<< เกาะอังกฤษของเรา คือสวนๆหนึ่ง ที่รวมทิวทัศน์งามสง่าตระการตา มีแปลงดอกไม้ณริมทางหรือเป็นหย่อมๆ พุ่มไม้ สนามหญ้า ทางเดิน มีรูปปั้นเรียงรายบนระเบียง และนกยูงนวยนาดไปมา แต่ความบรรเจิดของสวน อยู่นอกเหนือสิ่งที่ตาเห็น
    สุดกำแพงอิฐสีแดงๆที่มีกอต้นลอเร็ลขึ้นหนาแน่น มีห้องเก็บอุปกรณ์ ห้องปลูกต้นไม้ลงกระถาง ห้องทำงานของคนสวนนั่นแหละคือหัวใจของสวน โครงเหล็กของอาคารเรือนกระจก ห้องปรับอุณหภูมิให้ร้อนเสมอ หลุมลึกที่ขุดลงเพื่อปลูกต้นไม้เปราะบางบางจำพวก แท้งค์น้ำทั้งหลาย ล้อหินกลิ้งที่ใช้เกลี่ยพื้นสวนให้ราบเรียบเสมอกัน รถขนอุปกรณ์สี่ล้อ ท่อระบายน้ำ รถเข็นสองล้อ ไม้กระดาน
    บริเวณนั้นแหละ ที่คุณจะเห็นคนสวน ทั้งคนงานและเด็กฝึกงาน ต่างวุ่นกับงานที่ต้องทำตามสั่ง เขาทำกันไปเงียบๆ ติดตามดูจนกว่าเมล็ดทุกเม็ดถูกปลูกและฝังลงบนดินแล้ว และตะโกนข่มขู่ขับไล่ฝูงนกไปจนหมดแล้ว คุณจะเห็นว่า ความบรรเจิดของสวน มิได้อยู่ที่คำพูด.
    บางคนเอาต้นบีโกเนียปลูกลงกระถาง บางคนตอนหรือทาบกิ่งต้นกุหลาบ คนที่มือหนักๆ ต้องไม่ไปปลูกหรือแตะต้องต้นกล้าต้นอ่อน แต่พวกเขาก็เข็นรถล้อหินปราบและเกลี่ยระดับพื้นสวนได้ หรือไปตัดกิ่ง ไปเล็ม ไปดายหญ้า หรือร่อนทรายแยกทรายละเอียดไว้ เตรียมส่วนผสมทำอิฐเป็นต้น. ความบรรเจิดของสวนนั้น เกิดจากการลงมือทำของทุกคน.
    เกาะอังกฤษของเราเป็นสวนๆหนึ่ง สวนแบบนั้นมิได้เกิดจากการพูดพร่ำว่า “โอ้โฮ สวยจัง!” แล้วนั่งหลบแดดในที่ร่ม ในขณะที่คนสวนที่เหนือกว่าเรา ออกไปในสวนและเริ่มงานที่ควรทำ ใช้มีดเก่ามีดบิ่นๆ ช่วยถอนวัชพืชตามทางเดินที่ปูกรวด.
     ไม่มีขาคู่ใดที่ผอมแห้งเกินไป ไม่มีใครสมองทึบเกินไป ไม่มีมือขาวๆคู่ใดที่อ่อนปวกเปียกเกินไป หรือหัวใจใดที่ป่วยเกินไป ไม่ว่าใครอย่านิ่งดูดาย ในเมื่อมีอะไรให้ทำเสมอในสวน ตามสภาพความพร้อมของทุกคน เพราะความบรรเจิดของสวน คือคำสรรเสริญคนสวนทุกคน.
     จงหางานทำในสวนด้วยใจที่สำนึกคุณและทำไปให้เสร็จทีละอย่าง หากไม่เอาตาข่ายไปคลุมต้นสตรอเบอรี ก็ไปตามจับตัวทากในกอดอกไม้ จนเมื่อหลังของคุณชาชินกับความเมื่อยล้า จนเมื่อมือของคุณแข็งกำยำขึ้น ปิติจะบังเกิด คุณจะปลาบปลื้มภูมิใจว่า คุณเป็นส่วนหนึ่งของสวนอันบรรเจิดนั้น.
     ใช่แล้ว อาดัมเป็นคนสวน พระเจ้าทำให้เขาตระหนักว่า งานกว่าครึ่งหนึ่งของคนสวนนั้น ต้องคุกเข่าทำบนพื้น และเมื่อคุณทำงานส่วนของคุณเสร็จลง คุณไปล้างมือและสวดมนตร์ สวดขอให้ความบรรเจิดของสวนนั้นคงอยู่ต่อไป  
ความบรรเจิดของสวน ก็ไม่มีวันเสื่อมสลายลง!

ข้าพเจ้าอดนึกถึงคนสวนญี่ปุ่นไม่ได้ ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา ได้ผ่านเข้าออกในสวนญี่ปุ่นจำนวนมาก ทั้งที่มีชื่อและไม่มีชื่อ ได้เห็นการทำงานอย่างใกล้ชิดของพวกเขา ส่วนตัวแล้ว พวกเขาเป็นสุดยอดคนสวน.

จบหนังสือ ด้วยกลิ่นหอมอบอวลของมวลดอกไม้ไทยจากเนื้อเพลง
อุทยานดอกไม้
   ชมผกา จำปา จำปี
กุหลาบ ราตรี พะยอม อังกาบ ทั้งกรรณิการ์
ลำดวน นมแมว ซ่อนกลิ่น ยี่โถ ชงโค มณฑา
สายหยุด เฟื่องฟ้า ชบา และสร้อยทอง
    บานบุรี ยี่สุ่น ขจร
ประดู่ พุดซ้อน พลับพลึง หงอนไก่ พิกุลควรปอง
งามทานตะวัน รักเร่ กาหลง ประยงค์ พวงทอง
บานชื่นสุขสอง พุทธชาติสะอาดแซม
    พิศพวงชมพู
กระดังงาเลื้อยเคียงคู่  ดูสดสวยแฉล้ม
รสสุคนธ์ บุนนาค นางแย้ม
สารภีที่ถูกใจ
   งามอุบลปนจันทน์กะพ้อ
ผีเสื้อแตกกอ พร้อมเล็บมือนาง พุดตาล กล้วยไม้
ดาวเรือง อัญชัน ยี่หุบ มะลิวัลย์แลวิไล
ชูช่อไสว เร้าใจในอุทยาน.
ภาพจากบล็อก พันธุ์ไม้ในบ้าน

ดอกไม้ประจำชาติ ดอกไม้ประจำใจไทยทั้งชาติ
----------------------------------------------------------------------------------- 
กลับไปสู่เมนูหนังสือ ประมวลความรู้จากศัพท์อุทยานศิลป์

Comments