A-5 Arcade-Arcadia-Arch

Arboretum มาจากคำภาษาละติน arbor ที่แปลว่าต้นไม้. คำ arboretum หมายถึงสวนที่รวมไม้ยืนต้นนานาพันธุ์  เพื่อศึกษาความหลากหลาย รูปแบบของการขยายพันธุ์ และทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับต้นไม้แต่ละพันธุ์ เรียกว่าเป็นสวนรุกขชาติ.   ความคิดในการสะสมต้นไม้พันธุ์ต่างๆเริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 17 เป็นยุคเริ่มต้นของการศึกษาพฤกษศาสตร์ด้วย. สวนรุกขชาติอาจเป็นสวนเปิดโล่งเหมือนป่า ที่รวมต้นไม้ในวงศ์เดียวกันหรือจาหลายวงศ์ ที่สามารถอยู่ในระบบนิเวศนั้น. บางทีอาจเป็นอาคารเรือนกระจกขนาดใหญ่รวมต้นไม้ที่มาจากเขตอากาศอื่นๆ จัดพื้นที่ภายในให้คนสามารถเดินชมต้นไม้ได้สะดวก. หรือจัดกลุ่มต้นไม้ประเภทเดียวกันไว้ด้วยกันในอาคารเดียวกัน แยกจากไม้ประเภทอื่น เช่นอาคารไม้ตระกูลสน (pinetum), อาคารเฟิร์น (the fernery), อาคารไม้พันธุ์ส้ม (Orangery, Orangerie).

Arboriculture  หมายถึงการปลูกต้นไม้และพุ่มไม้ รวมถึงการศึกษาทุกอย่างที่เกี่ยวกับต้นไม้.

Arbour เป็นซุ้มต้นไม้หรือโพรงลึกเข้าไปใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ๆ. ซุ้มหรือโพรงจึงอาจใช้เป็นที่บังลมบังแดดไปด้วย. ปกติทางเข้ามักตัดเป็นแบบประตูสี่เหลี่ยม หรือทำประตูอาร์ค. ถ้าซุ้มขยายยาวต่อไปเหมือนอุโมงค์ เรียกว่า tunnel-arbour (อุโมงค์ต้นไม้) โดยทั่วไปซุ้มต้นไม้แบบนี้ใช้ต้นไม้จริง. arbour ถือเป็นองค์ประกอบประดับสวนแบบหนึ่ง.
 
ตัวอย่างซุ้มต้นไม้แบบเรียบตัดเป็นประตูสี่เหลี่ยม. เมื่อไปดูใกล้ๆ เห็นประตูจริงที่เปิดออกไปยังสนามอีกผืนหนึ่ง. สองภาพนี้ได้จากอุทยาน Drummond Castle Gardens ใกล้เมือง Crieff, Perthshire, PH5 2AA ในสก็อตแลนด์.
 
สองภาพนี้เป็นซุ้มต้นไม้ที่แปลกตากว่า.ดูไกลๆเหมือนเนินเขาลูกหนึ่ง มีประติมากรรมเทพกรีก มือถือคบเพลิงนั่งบนลูกโลก. เป็นภาพลักษณ์ของเทพบดีซูส (Zeus หรือเทพโรมันจูปีเตอร์ - Jupiter). รูปปั้นหินอ่อนสีขาวตัดกับสีเขียวเข้มของต้นไม้. ภายในไม่มีทางออก เมื่อเข้าไปดูจึงเห็นว่า เป็นต้นไม้ใหญ่อายุมากต้นหนึ่งต้นเดียวที่เป็นเหมือนเสาค้ำกระโจมหลังใหญ่นี้. ต้นไม้นั้นแผ่กิ่งก้านสาขาออกเป็นรัศมีเกือบเป็นวงกลม มีต้นไม้ต้นเล็กกว่าปลูกรอบๆเป็นวง. กิ่งจากต้นไม้เล็กๆถูกจัดให้แผ่ออกและไปเกาะเชื่อมกับกิ่งก้านของต้นใหญ่. ต้นใหญ่จึงเหมือนพยุงกิ่งก้านสาขาของต้นไม้เล็กๆรอบข้างไว้. อาจต้องเล็มตัดกิ่งกันอยู่เสมอ เพื่อรักษารูปลักษณ์ของซุ้มไม้ใหญ่ ที่อาจเรียกเป็นถ้ำต้นไม้ก็ไม่ผิดนัก. สองภาพนี้มาจากอุทยาน Drummond Castle Gardens ใกล้เมือง Crieff, Perthshire, PH5 2AA ในสก็อตแลนด์.
ภาพนี้จากอุทยาน El Generalife [เอ็ล เฆเนรัลลีเฟ่] Alhambra [อะลั่มบฺระ] เมือง Granada [กฺราน่าดะ] ประเทศสเปน. ซุ้มใหญ่ที่เห็นเกิดจากการรวมกิ่งก้านต้นไซเปรสสี่ต้นเข้าด้วยกัน เป็นที่ตั้งของสระน้ำพุ. จากมุมนี้มองไปเห็นทางน้ำกับน้ำพุที่ทอดยาวต่อออกไปถึงกำแพงต้นไม้ที่ตัดเล็มเหมือนกำแพงป้อมเมือง. อุทยานที่นั่นน่าอภิรมย์ยิ่งนัก เดินไปไหน ได้ยินเสียงน้ำไหลกล่อมระรื่นหูชูใจตลอดเวลา. เป็นความงามแบบพอดีพอเพียงของคนเดินดิน. สวนแบบอาหรับที่นั่นสะท้อนค่านิยมเกี่ยวกับสวรรค์ของชาวอาหรับที่มุ่งหาธรรมชาติอันเขียวชอุ่มใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ ดูเรียบง่ายไม่อลังการแบบสวรรค์ที่คนไทยมักจินตนาการว่าแพรวพราวด้วยเครื่องเพชรนิลจินดา. 
 
เป็นตัวอย่างของอุโมงค์ต้นไม้ (tunnel-arbour) จากพระราชอุทยาน Hampton Court Estate (ตั้งอยู่ที่ Hope-Under-Dinmore, Leominster, Herefordshire HR6 0PN). ที่นั่นใช้ต้น beech (สกุล Fagus) ทั้งหมดปลูกและดัดเข้าหากันเป็นอุโมงค์. พื้นปูด้วยกรวดขนาดใหญ่กว่าทรายเล็กน้อย. อุโมงค์ต้นไม้ที่นั่นมิได้มีจุดมุ่งหมายอะไรเป็นพิเศษ เป็นองค์ประกอบประดับสวนแบบหนึ่งที่ทำหน้าที่คั่นพื้นที่สวนไปด้วย.

Arc, Arc boutant  ดูที่ Buttress

Arcade ไทยทับศัพท์ว่า อาร์เขต  คำนี้มาจากคำว่า “arc, arcoที่หมายถึงเพดานโค้งครึ่งวงกลม ที่เชื่อมเสาสูงที่ตั้งเรียงเป็นแนวสองข้างทางเดิน. ทางเดินยาวใต้เพดานโค้งแบบนี้ เรียกว่า อาร์เขต เป็นแบบสถาปัตยกรรมกรีกโรมัน. ปัจจุบันในเมืองใหญ่ อาร์เขต หมายถึงร้านค้าที่ตั้งติดๆกันไป มีทางเดินทอดยาวหน้าร้านที่มีหลังคาคุ้มแดดคุ้มฝน เพดาอาจไม่โค้งเป็นครึ่งวงกลมแล้วในสมัยนี้. ในบริบทของสวน อาร์เขต อาจทำขึ้นจากแนวต้นไม้สองข้างทางเดิน โดยที่จัดกิ่งก้านของต้นไม้สองข้างให้โค้งเข้าจรดกันเป็นเพดานกิ่งไม้.
ทางเดินกลางเมือง Burgos [บูรฺโก๊ซ] ประเทศสเปน  มีต้นไม้ปลูกสองข้าง กิ่งถูกจัดและดัดมาจนบรรจบกันเป็นอาร์เขต  ในฤดูร้อนเมื่อใบไม้ออกเต็ม จะเป็นช่องทางเดินที่ร่มรื่นทีเดียว. ภาพนี้ถ่ายในฤดูหนาว เห็นอย่างชัดเจนว่ากิ่งสองข้างโค้งมาบรรจบกันอย่างเหมาะเจาะเป็นอาร์เขต. ต้นไม้เหล่านี้เป็นพันธุ์ plane tree ประเภทหนึ่ง. ลำต้นขาวและเปลือกต้นไม้จะหลุดออกเป็นหย่อมๆเห็นสีเขียวอ่อนๆ  สลับกับสีออกขาวๆของลำต้น. ให้สังเกตด้วยว่า พื้นทางเดินปูกระเบื้องที่มีลวดลายรับกับภาพลักษณ์ของอาร์เขตต้นไม้ ในขณะเดียวกันก็ยังทำให้นึกถึงคลื่น. ทางเดินนี้เลียบแม่น้ำ Arlanzón [อารฺลันซ่น] ที่ไหลผ่านกลางเมือง Burgos.
ภาพขวาเป็นทางเดินใต้อารเขตต้นยี่โถ ทางนี้นำไปสู่ส่วนที่เรียกว่า El Generalife [เอ็ล เฆเนรัลลีเฟ่] เมือง Granada [กฺรน่าดะ] ประเทศสเปน. เมื่อเดินผ่านใต้อารเขตนี้ยามดอกไม้บาน ได้กลิ่นหอมอ่อนๆชื่นใจและแปลกใจพร้อมกัน เพราะปกติเมื่อดมดอกยี่โถดอกเดี่ยวๆ ไม่ได้กลิ่นหอมใดๆ.  
ภาพจากอุทยานปราสาท Chatsworth (ใน Derbyshire ประเทศอังกฤษ)  เป็นแนวต้นไม้ จัดและตัดกิ่งตอนบนให้ราบเป็นแนวเดียวกันโดยตลอด  ด้านข้างก็เช่นเดียวกัน รวมทั้งตัดกิ่งต่ำๆทิ้งเหลือลำต้นที่เหมือนเสาเรียงรายขนานกันไปอย่างเป็นระเบียบบนพื้นสนามหญ้าเขียวชอุ่ม. สนามหญ้าผืนใหญ่และยาวนี้เป็นหน้าตาของอุทยาน เพราะแสดงว่าเจ้าของมีคนสวนผู้ดูแลไม่ต่ำกว่าสี่สิบคน. ในสมัยที่ยังไม่มีเครื่องดายหญ้า การดูแลสนามหญ้าเป็นสิ่งที่ลำบากที่สุด ใช้เวลานานที่สุดและเปลืองแรงงานมากที่สุด. สมัยนี้คนดูแลสามารถนั่งบนรถดายหญ้าขับไปๆมาๆ. ถึงกระนั้น พื้นสนามเรียบเหมือนกันทั้งผืนดั่งในภาพนี้เหมือนพรมทอผืนใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของคนดายหญ้าว่าสม่ำเสมอเพียงใด เหมือนจิตรกรฝีมือดีที่ป้ายสีได้สม่ำเสมอ.   
อาร์เขตต้นไม้ที่เรียงแถวเป็นหน้ากระดานสี่แถว เอื้อต่อการตัดเล็มต้นไม้กลุ่มนี้ให้เป็นอาร์เขตต้นไม้ สร้างทัศนมิติที่สวยงามน่าชม. ภาพจากพระราชอุทยาน Schönbrunn [เชินบฺรูน] ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย.

Arcadie หรือ arcadia มาจากคำกรีก arkadia. ตามความเชื่อที่สืบทอดมาจากกรีซโบราณ ถิ่นอาร์กาเดียเป็นจังหวัดหนึ่งใน Pelopponnêsos มีภูเขาสองลูกที่เทพบริษัททั้งหลายชอบไป รวมทั้ง Pan กับเหล่านางพราย. เป็นดินแดนแห่งความสุขที่ Virgil (กวีละตินมีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล) พรรณนาไว้ในกาพย์กลอนเรื่อง Bucolic ของเขา ว่าเป็นดินแดนแห่งความสงบสุข.  วรรณกรรมในยุคเรอแนสซ็องส์ได้ฟื้นฟูจินตนาการและความฝันใฝ่เกี่ยวกับแดนอาร์กาเดีย ที่ปรากฏชัดเจนในศิลปะคลาซสิก. ตั้งแต่นั้นชื่อ arcadia นี้จึงมีนัยของความสุขที่ไร้กังวล ไร้ทุกข์ เป็นความสุขแบบเรียบง่ายในธรรมชาติท้องทุ่ง ในหมู่ฝูงแกะกับคนเลี้ยง มีเสียงขลุ่ยเสนาะหูที่เทพ Pan (แพน) ขับกล่อม.
จิตรกรรมของ Nicolas Poussin [Public domain or Public domain], via Wikimedia Commons.
จิตรกรรมมีชื่อของ Nicolas Poussin (1594-1665) ภาพนี้ที่มีสำนวน Et in Arcadia ego จำหลักลงบนโลงหิน(แบบ sarcophagus) ที่อยู่กลางภาพ. มีคนเลี้ยงแกะสามคนและผู้หญิงหนึ่งคนยืนอยู่หน้าหีบศพ สองคนชี้ไปที่คำจารึกบนโลงหิน. ความหมายของสำนวนละตินนี้คือ “และที่อาร์กาเดีย ข้า(ความตาย)ก็อยู่ที่นั่น”. ภาพนี้เนรมิตขึ้นในราวปี 1640 เป็นภาพปริศนาธรรมในแบบของ Poussin ที่แทรกเตือนมรณานุสติ (สำนวนละตินที่มีความหมายตรงกับคำ มรณานุสติในไทยคือ memento mori ที่แปลตามตัวว่า <จำไว้ว่า วันหนึ่งเจ้าต้องตาย>) ว่า แม้ในดินแดนแห่งความสงบสุข คนก็หนีความตายไปไม่พ้น. (มีผู้วิจารณ์ภาพนี้ไว้หลายคน หาอ่านได้ในเน็ต). ดูคลิปวีดีโออธิบายภาพนี้ เป็นตัวอย่างหนึ่ง ชมได้ที่นี่ >>

Arch  คือสิ่งก่อสร้างรูปวงโค้ง เป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งที่พบเห็นในสวน. อาจทำจากวัสดุแบบต่างๆเช่น ดัดจากกิ่งก้านของต้นไม้(ดูภาพที่คำ arcade ข้างบน) หรือก่อเป็นประตูหลังคาวงโค้งด้วยอิฐหรือหิน. arch ที่ประดับสวนเป็นสิ่งดึงดูดสายตาอย่างหนึ่ง. arch ที่ประดับในเมืองโดยทั่วไปสร้างเป็นประตูชัยแบบโรมัน เป็นอนุสรณ์สถานแบบหนึ่ง. บางทีเนรมิตให้เป็น arch ทั้งสี่ด้าน ถ้าขนาดเล็กลงก็กลายเป็นแบบของ mausoleum (ดูที่คำนี้).
ประตูลักษณะอาร์ค (arch) ภายในสวนที่ Drummond Gardens (Muthill, Crieff PH5 2AA ในสก็อตแลนด์). ประตูสวนที่เปิดไปยังทิวทัศน์ใหม่อีกแบบหนึ่ง (ดูที่คำ vista)
ภาพประตูจากมุมหนึ่งในพระราชอุทยาน Schloss Sanssouci [ฉล้อซ ซ็องซูซี] (Potsdam ประเทศเยอรมนี) ทำเลียนแบบปากทางเข้าถ้ำ ด้วยการใช้หินก้อนใหญ่ๆวางซ้อนๆกัน เจตนาไม่ให้ราบเรียบเสมอกัน. จากมุมมองนี้ เห็นรูปปั้นที่อยู่ไกลออกไป เชิญชวนให้ตามไปดู (ดูที่คำ eyecatcher)
ประตูชัยอีกแห่งหนึ่งในอาณาบริเวณพระราชอุทยาน Schloss Sanssouci (Potsdam ประเทศเยอรมนี) ประดับด้วยประติมากรรมจำหลักนูนบนแผ่นกระเบื้องดินเผา(สีอิฐ) ที่ติดประดับทั้งประตู
คำฝรั่งเศสของ arch คือ arc ที่รู้จักกันดีในกรุงปารีส คือ Arc de Triomphe du Carrousel [อารก เดอ ทรี-อ๊มฟ ดู การุซเซ็ล] ที่นโปเลียนให้สร้างขึ้น (1807-09) ตรงหน้าวัง Tuileries [ตุย-เลอ-รี] ที่ประทับในกรุงปารีส เพื่อเป็นอนุสรณ์ชัยชนะสงครามที่ Austerlitz [โอ๊สแตรฺลิตซฺ] ( Austerlitz ตั้งอยู่ห่างจากเมือง Brno ราว 10 กิโลเมตรในสาธารณรัฐเช็ก - Czech Republic). Arc de Triomphe ในที่สุดจึงแปลว่า ประตูชัย”. ภาพนี้ถ่ายจากลานพิพิธภัณฑ์  Le Louvre [เลอ ลูเวรอ]. บริเวณนี้เป็นที่ตั้งกลุ่มพระราชวังติดต่อกันไป  มีสวนสองข้างขนานไปกับความยาวของกลุ่มอาคารทั้งหลาย ชื่อเรียกบริเวณนี้ทั้งหมดคือ Jardin des Tuileries [จารแด็ง เด ตุยเลอรี] ที่ทอดยาวไปถึงจัตุรัสใหญ่ Place de la Concorde [ปล๊าซ เดอ ลา กงกอรฺเดอะ]. ที่นั่นมีเสาโอเบลิซก์ที่นโปเลียนไปขนมาจากอีจิปต์ตั้งเด่นตรงกลาง.  หลังจากนั้นเป็นถนนสายใหญ่ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของปารีส ชื่อ Avenue des Champs Elysées [เวอนู เด ช็องเซลีเซ่]. ถนนสายนี้ทอดยาวไปถึง Place Charles de Gaulle หรือที่เรียกกันว่า Etoile [เอตัวลฺ] (แปลว่าดาว) เพราะจากตรงนั้นมีถนนแยกออกไปทุกทิศทางทั้งหมดสิบสองสาย โดยมีประตูชัย Arc de Triomphe [อารก เดอ รี-อ๊มฟฺ] เป็นจุดศูนย์กลางรวมถนนทั้งสิบสองสายอันยาวเหยียดจากพิพิธภัณฑ์ Le Louvre ถึง Arc de Triomphe สื่อชัยชนะอันมเหาฬารของฝรั่งเศส ทั้งในแง่ของความรุ่งโรจน์ด้านการเมืองและการปกครองของจักรพรรดินโปเลียน และในแง่ของความสำเร็จด้านสถาปัตยกรรม ที่หาที่ใดเสมอเหมือนไม่ได้ในโลกยุคใหม่และยุคปัจจุบัน.
ในวันชาติฝรั่งเศส ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กรกฎาคม  เครื่องบินไอพ่นสามลำจะบินผ่านใต้ประตูชัย Arc de Triomphe [อารก เดอ รี-อ๊มฟ] ที่เห็นในภาพนี้ พร้อมกับปล่อยควันสีน้ำเงิน ขาวและแดงเป็นลำในท้องฟ้า เป็นสีสามสีของธงชาติของฝรั่งเศส. ขบวนพาเหรดเริ่มต้นจากประตูชัยนี้ เดินลงไปบนถนน Avenue des Champs Elysées ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญและเด่นที่สุด และสิ้นสุดลงที่จัตุรัสใหญ่ Place de la Concorde [ปล๊าซ เดอ ลา กงกอรฺเดอะ]  จุดยืนรับขบวนของประธานาธิบดีฝรั่งเศส พร้อมด้วยคณะรัฐบาลและคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ. ใต้หลังคาโค้งมีสุสานของทหารนิรนาม ที่มีเปลวไฟจุดสว่างตลอดเวลาเตือนให้ระลึกถึงความโศกสลดจากสงครามโลกทั้งสองครั้ง. ทุกปีในวันที่ 11 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันสงบศึก (Armistice Day) ประธานาธิบดีฝรั่งเศสไปวางพวงหรีดบนสุสานของทหารนิรนาม และในวาระฉลองพิเศษต่างๆ มีการติดธงชาติใต้ประตูชัยนี้. ธงปลิวสะบัดโหมกระหน่ำจิตสำนึกของคน. รายละเอียดของประติมากรรมที่ประดับประตูชัยนี้ก็น่าสนใจติดตามดูอย่างละเอียด. 
ประตูชัยอีกแบบหนึ่ง ที่หาที่อื่นเทียบกันไม่ได้ คือประตูชัยที่พระราชวัง Schönbrunn [เชินบรูน] ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย. ส่วนตรงกลางมีประตูกระจก ปิด-เปิดสำหรับเข้าออก (ปัจจุบันจัดเป็นร้านน้ำชากาแฟและขนมนมเนย). ส่วนปีกอาคารสองข้างเปิดโล่ง. ที่นั่นเรียกประตูชัยนี้ว่า อาคาร Gloriette [กลอรีแย็ต] (หมายถึง ความรุ่งโรจน์”) สร้างในรัชสมัยของจักรพรรดิ Joseph II และจักรพรรดินี Maria Theresa (ราชวงศ์ Habsburgs) ในปี 1775 ให้เป็นอนุสรณ์สถานแด่สงครามสองสมัย (War of the Austrian Succession, 1740-1748 และ Seven Years’ War, 1756-1763) ที่นำสันติภาพมาสู่จักรวรรดิ. ยังมีอาคารที่ตั้งชื่อเดียวกันว่า gloriette อีกหลายแห่งทั้งในเยอรมนีและในยุโรป.
--------------------------
ต่อที่ A-6 คำ Architecture orders, Armillary sphere, Art nouveau.
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/01/a-6-architecture-orders.html
 เมนูหนังสือ ประมวลความรู้จากศัพท์อุทยานศิลป์
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/06/mygardenbook-menu.html
  

Comments