Baroque [บาร็อค]
เป็นคำฝรั่งเศสที่ใช้เป็นคำสามัญและออกเสียงตามคำในภาษาฝรั่งเศส
เมื่อหมายถึงศิลปะแบบแผนแบบหนึ่งที่ฝรั่งเศสพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปลายยุคเรอแนสซ็องส์ลงมาและโดยเฉพาะบรรลุจุดสูงสุดในศตวรรษที่18.
เป็นแนวศิลปะที่แพร่หลายเข้าไปในศิลปะหลายแขนงทั้งวรรณกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม สถาปัตยกรรมและดนตรี.
อุดมการณ์ของบาร็อคตรงข้ามกับแนวคลาซสิกที่ยึดแบบยึดหลักที่สภาบัณฑิตยศิลป์วางไว้แล้ว
ส่วนศิลปะบาร็อคสื่อจินตนาการอิสระ เปิดโอกาสให้ทุกอารมณ์สะเทือน ความหวั่นไหวและความฝันเฟื่องได้แสดงออก.
ศิลปะบาร็อคแพร่ออกสู่ประเทศยุโรปอื่นๆทั้งในยุโรปตะวันตกและตะวันออก เช่นเมือง Prag [ปร๊าก] ใน Czech Republic (สาธารณรัฐเช็ก) ที่ถือกันว่าเป็นเมืองบาร็อค
เพราะมีอาคารสถาปัตยกรรมบาร็อคจำนวนมาก รวมกันได้อย่างเป็นเอกภาพกลมกลืนกันไปทั้งเมือง.
เยอรมนีเป็นศูนย์รวมศิลปะบาร็อคสำคัญศูนย์หนึ่งเช่นกัน ส่วน rococo ก็เป็นรูปลักษณ์หนึ่งที่แพร่หลายตามกันมา
(ดูที่คำนี้).
อาคารสรงน้ำที่สวยงามเหมือนพระราชวัง บนแหล่งน้ำพุใต้ดินที่เป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติที่มีคุณภาพสูงมาตั้งแต่ยุคโรมันผู้ตั้งสถานอาบน้ำสปาแห่งแรกๆ ตามด้วยชาวเติร์กผู้นำวิถีอาบน้ำ Turkish baths ไปเผยแพร่ที่เมือง Budapest ในศตวรรษที่16 และต่อมาในศตวรรษที่19-20 วิถีวารีบำบัดควบคู่ไปกับการรักษาด้วยสมุนไพรธรรมชาติ ยืนยันชื่อเสียงของสถานสปาแห่งนี้ ที่ได้สืบทอดประเพณีวารีบำบัดเรื่อยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุคโบราณ. Szechenyi Furdo ชื่ออาคารสวยงามอลังการของสถานอาบน้ำนี้ Gyozo Czigler (Győző Czigler) เป็นผู้ออกแบบและเริ่มใช้ตั้งแต่ปี1909 เป็นต้นมา. ความหรูหราของอาคารยืนยันความสำคัญของการอาบน้ำแร่ที่เป็นทั้งเพื่อสุขอนามัยที่ดีสำหรับปวงชน และเพื่อการคบหาสมาคม การเจรจาธุรกิจตลอดจนการหาเพื่อนหาคู่พร้อมกันไป เป็นสังคมเฉพาะแบบของชาวฮังการี โดยเฉพาะที่เมือง Budapest ที่ได้ชื่อว่า City of Baths.
ในสวนบาร็อค มิติของสวนกระจายออกทุกทิศทาง
และไกลพ้นพรมแดนของสวนหรืออุทยาน อาจไกลไปถึงจุดหนึ่งณเส้นขอบฟ้า.
ยุคบาร็อคเป็นยุคที่คณิตศาสตร์และหลักการของทัศนมิติเข้าไปมีบทบาทในการศึกษาวิเคราะห์วิจัยวิทยาศาสตร์และศิลปะ.
ตัวอย่างศิลปะการประดับแบบบาร็อคภายในปราสาท Nymphenburg [นิมเฟ็นบูรฺกฺ] เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี. ลวดลายที่เห็นเป็นบาร็อครุ่นร็อคโกโก.
สังเกตตัวอย่างจากภาพสองภาพนี้ เช่นกรอบไม้ขาวประดับทองที่ล้อมภาพจิตรกรรม.
กรอบเหมือนลายนูนบนกำแพงที่ทอดไปตลอดทั้งผนังตอนบน เป็นลวดลายประดับและแยกพื้นที่ระหว่างผนังกับเพดาน แต่ลวดลายล้ำเข้าไปในพื้นที่ของจิตรกรรม ยุคก่อนหน้านั้น การแบ่งพื้นที่นั้นชัดเจนเป็นเส้นตรงเสมอ.
สองภาพนี้เป็นตัวอย่างอาคารสถาปัตยกรรมแบบบาร็อคในเยอรมนี
ที่จัตุรัส Zwinger กลางเมือง Dresden
Basin
เป็นองค์ประกอบหนึ่งของสวนแบบฝรั่งเศส
ในภาษาฝรั่งเศสเขียนเป็น bassin [บัซแซ็ง] หมายถึงสระน้ำขนาดใหญ่ๆที่คนขุดขึ้นเพื่อประดับเมือง
วัง สวนหรืออุทยาน.
เป็นสระน้ำที่มีรูปลักษณ์และสัดส่วนแบบเรขาคณิต.
โดยทั่วไปมักทำน้ำพุหรือจัดกลุ่มประติมากรรมประดับกลางสระน้ำ.
น้ำในสระนำส่งมาจากแม่น้ำหรือน้ำตกธรรมชาติที่มีอยู่ในถิ่นนั้น.
ภาพนี้คือสระเทพอพอลโล - Bassin
d’Apollon [บัซแซ็ง
ดะป็อลลง]
สระน้ำใหญ่ขวางกลางบนแนวเส้นแกนหลักของพระราชอุทยานแวรซายส์ ประเทศฝรั่งเศส.
มีทางเดินคั่นระหว่างสระน้ำนี้กับสระน้ำใหญ่ที่ทอดออกไปยาวเหยียดอยู่เบื้องหลัง เป็นแนวตรงไปสุดสายตา. สร้างทรรศมิติที่เหมือนมิมีที่สิ้นสุด เสริมความยิ่งใหญ่ของพระราชอุทยานแวรซายส์
ที่เปรียบได้กับอำนาจของพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่ (Louis XIV, 1638-1715) ที่ครอบแผ่ไปทั่วทั้งยุโรปในศตวรรษที่สิบเจ็ดจนถึงต้นศตวรรษที่สิบแปด. แนวเส้นแกนนี้เป็นแบบสำหรับการเนรมิตสวนในพระราชอุทยานอื่นๆทั่วไปในยุโรป. นอกจากสระเทพอพอลโลยังมีสระน้ำและน้ำพุจำนวนมาก
เฉพาะที่ใช้คำ bassin มี 8 แห่ง
นอกนั้นบางทีก็เรียกเป็น “น้ำพุ – fontaine” แทน. พระราชอุทยานแวรซายส์มีสระน้ำ น้ำพุ น้ำตกแบบต่างๆรวมกัน 1400 แห่ง.
สระน้ำขนาดใหญ่ที่สุดที่มีในสวนอังกฤษ อยู่ที่ Chatsworth
ในเทศมณฑล Derbyshire ประเทศอังกฤษ.
ภาพจากพระราชวัง Blenheim Palace [เบล็นเน็ม] ที่อยู่ของตระกูลท่าน Duke of
Marlborough บรรพบุรุษของท่าน
Sir Winston Churchill ตั้งอยู่ที่เทศมณฑล Oxfordshire ประเทศอังกฤษ.
อาคารที่เป็นปราสาทเป็นศิลปะบาร็อคที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ. สระน้ำที่เนรมิตขึ้นในพระราชอุทยาน ดังในภาพนี้
มีสวนปาร์แตร์ตามแบบฝรั่งเศสล้อมรอบ.
ในบริบทของสวนอังกฤษ
ห้วงน้ำธรรมชาติเช่นทะเลสาบหรือแม่น้ำ(ธรรมชาติหรือเนรมิตขึ้นให้เหมือนธรรมชาติ)
เป็นเอกลักษณ์สำคัญและเด่นกว่าสระน้ำแบบฝรั่งเศส (ดูตัวอย่างที่คำ pool).
ในพระราชอุทยาน
Nymphenburg ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี. พระราชวัง Nymphenburg
สร้างและขยายปรับปรุง เพิ่มอาคารใหม่เข้าไปในแต่ละโอกาส ตั้งแต่ปี 1664-1739. การจัดตกแต่งภายในพระราชฐานก็ดำเนินต่อมาจนถึงศตวรรษที่19. ส่วนพระราชอุทยานสร้างตามแบบพระราชอุทยานแวรซายส์
คือตามแบบสวนบาร็อคฝรั่งเศส. พระราชวังปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนเข้าชมได้ พระราชอุทยานก็เปิดให้ประชาชนเข้าไปพักผ่อนได้เกือบตลอด
24
ชั่วโมงโดยมิต้องเสียค่าผ่านประตูใดๆ.
ตามแบบแปลนสวนของแวรซายส์ พระราชอุทยานที่นั่นจึงมีสระน้ำกลมขนาดใหญ่
ตั้งขวางกลางบนแนวเส้นแกนหลักของพื้นที่ที่ทอดจากตำหนักใหญ่ออกไปสู่พื้นที่กว้างไกลสุดสายตา.
สระน้ำพุกลมนี้เป็นจุดเริ่มของการโชว์มวลน้ำจำนวนมหาศาล คั่นด้วยทางเดิน
แล้วมีสระน้ำทอดยาวตามแนวเส้นแกนหลักไปยังหมู่ประติมากรรมหินอ่อนที่ประดับน้ำตกเตี้ยๆไกลออกไปดังในภาพข้างบนนี้. แม้ไม่มีประติมากรรมขนาดใหญ่ประดับในสระน้ำพุทรงกลม นอกจากหมู่หินพร้อมน้ำพุ
แต่ความยาวของสระน้ำที่ทอดต่อไป เหมือนคลองยาวไปถึงสระหินอ่อนที่เนรมิตเป็นน้ำตก (Grosse
Kaskade) ขวางกลางบนแนวเส้นแกนอีกแห่งหนึ่งนั้น
น่าประทับใจทีเดียว.
เมื่อเดินไปใกล้บริเวณน้ำตกใหญ่ (Grosse
Kaskade) มีรูปปั้นครึ่งนั่งครึ่งนอนสองข้าง ที่เป็นสัญลักษณ์แทนแม่น้ำสองสายที่ไหลผ่านเมืองมิวนิค คือแม่น้ำ Danube และแม่น้ำ Tsar
เนรมิตขึ้นระหว่างปี 1715-1717. จากตรงนั้นจะเห็นคลองยาวต่อไกลเป็นแนวตรงโดยตลอด ไปถึงพระตำหนัก
Lustheim ที่อยู่ไกลลิบๆสุดแนวเส้นแกนนั้น.
แนวแกนหลักของพระราชอุทยานที่เชื่อมพระราชตำหนักใหญ่
Nymphenburg ตรงไปถึงพระตำหนัก Lustheim
จึงยาวเหยียดมาก
เน้นมิติของความ (เกือบ) ไม่มีที่สุดของพระราชวัง และแน่นอนสื่อความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์และอัจฉริยภาพของวิศวกร.
คลองยาวเหยียดอีกด้านหนึ่งของพระราชวัง
Nymphenburg. เป็นทางเข้าสู่พระราชวังจากตัวเมือง. เดินอีกไกล เลียบคลองนี้กว่าจะไปถึงหน้าประตูวังจริง.
ภาพมุมสูงของพื้นที่พระราชวังและพระราชอุทยาน
Nymphenburg
มีพื้นที่สวนทั้งด้านหน้าและด้านหลังอาคารพระราชวัง
(ตรงดอกจันสีแดง) ภาพจากเอกสารแผ่นพับที่แจกเมื่อเข้าชมพระราชวัง.
ภาพสระน้ำสี่เหลี่ยมผืนผ้า บริเวณ Patio des Myrtes ภายในพระราชอุทยาน Alhambra
เมือง Granada ประเทศสเปน.
ความยาวของสระน้ำมิได้มากเหมือนคลองยาวที่พระราชอุทยาน Nymphenburg ข้างบน. ในบริบทของสวนอาหรับบทบาทสำคัญของสระน้ำคือการเป็นกระจกสะท้อนอาคารสถาปัตยกรรมในบริเวณนั้น
รวมทั้งท้องฟ้าและเมฆที่ให้ความรู้สึกอิสระ
ผ่อนคลายแม้จะอยู่ในแวดล้อมของอาคารต่างๆ.
ท้องฟ้าเป็นองค์ประกอบสำคัญของสวน
เป็นสิ่งประดับสวนที่กระตุ้นและเปลี่ยนอารมณ์สะเทือนต่างๆของคน.
Bastion คำนี้มาจากคำอิตาเลียน bastire ที่แปลว่า “ก่อสร้าง”.
ภาษายุโรปอื่นๆเช่นในภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศสเป็นต้น นำคำ bastion มาใช้เป็นศัพท์ในสถาปัตยกรรมทหาร หมายถึงส่วนที่ยื่นออกไปจากแนวกำแพงเมือง
มักอยู่ตามมุม หรือตั้งเป็นระยะๆบนแนวกำแพง. กำแพงเมืองและป้อมเมืองแบบนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์.
ระหว่างกำแพงเมืองกับกำแพงเมืองชั้นใน อาจมีสวนสำหรับทหาร
เพื่อเป็นที่พักผ่อนของกองทหารหรือเป็นประโยชน์ใช้สอยอื่นๆ เช่นพระราชวัง Blenheim Palace (ดูคำ Basin ข้างบน) เป็นแบบปราสาทศูนย์บัญชาการทหารและป้อมเมืองด้วย
จึงมีกำแพงและคูเมือง. มีป้อมทรงกลม 8
ป้อมแต่ละป้อมกว้าง50 เมตร. คำ bastion นี้เมื่อใช้อธิบายส่วนหนึ่งในสวน
โดยเฉพาะภายในสวนที่มีกำแพงปิดล้อม (ดูที่ Walled garden)
หมายถึงส่วนที่ยื่นออกไปจากพื้นที่ มักเป็นทรงแปดเหลี่ยมหรือทรงกลม.
กำกับไว้ว่า Line art drawing of a bastion
ของ Pearson Scott Foresman
[Public domain], via Wikimedia Commons.
สี่มุมที่ยื่นออกเหมือนหัวลูกศร
จากป้อมสี่เหลี่ยมจัตุรัส คือ Bastion แบบหนึ่ง
เห็นชัดว่าบนนั้นเป็นที่ตั้งของปืนใหญ่. ภาพนี้คือปราสาท Castillo de San Marcos, ชาวสเปนที่เข้าไปตั้งรกรากในรัฐฟลอริดายุคนั้นสร้างขึ้นเพื่อปกป้องเมือง St. Augustine ที่อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐฟลอริดา, สร้างในระหว่างปี 1672-1695. เป็นปราสาทป้อมที่สร้างด้วยหินสกัด(masonry fort) ที่เก่าที่สุดในสหรัฐอเมริกา. ภาพจากหน่วยดูแลอุทยานที่นั่น National Park Service
(http://www.nps.gov) [Public domain], via Wikimedia Commons.
เกี่ยวกับ Bastion
แล้ว
คงไม่มีที่ใดสวยน่าชมไปกว่า Fisherman’s
Bastion(ชื่อท้องถิ่นคือ Halászbástya) บนฝั่ง Buda ของแม่น้ำ Danube
ในกรุง Budapest ประเทศฮังการี. สร้างบนเนินสูง Castle
Hill ใกล้ๆกับที่ตั้งของโบสถ์ Mattias Church, ระหว่างปี1895-1902
เป็นแบบสถาปัตยกรรม Neo-gothic และ Neo-romanesque.
ประกอบด้วยหอสูงเจ็ดหอ
แทนเผ่าแม็กยาร์(Magyar)
เจ็ดเผ่าที่ไปตั้งรกรากที่ดินแดนนั้นในราวปี895. เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่ผู้ที่ไปเที่ยวประเทศฮังการี พลาดไม่ได้. ที่มีชื่อเจาะจงว่า“ชาวประมง”เพราะดินแดนฝั่งนี้เคยเป็นดินแดนรวมชาวประมงที่จัดตั้งเป็นสมาพันธ์ชาวประมงและพวกเขาเคยปกป้องดินแดนแถบนี้เสมอมาในยามวิกฤตการณ์สงคราม.
ด้านซ้ายเห็นกำแพงด้านหลังของวัด
Matthias
Church, ด้านขวาคือส่วนที่เป็นกำแพงป้อมเมือง
มีหอสูงแหลมแบบนี้ทั้งหมดเจ็ดหอ ที่คือ bastion นั่นเอง.
ที่นั่นมีหอแบบป้อมระวังการณ์เจ็ดหอ
Bath house
เป็นอาคารน้ำสำหรับการอาบ แช่และสรงสนานในน้ำ. มักตั้งเหนือธารน้ำใต้ดิน.
อาคารอาบน้ำบางแห่ง ก่อสร้างเป็นแบบสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งมาก
โดยเฉพาะในอาคารอาบน้ำแบบอาหรับ หรือแบบโรมัน เป็นหินอ่อนทั้งหลัง
หรือปูกรวดก้อนกลมเล็กๆ
หรือปูกระเบื้องเคลือบมีลวดลายสวยงามภายในอาคารอาบน้ำแบบบาร็อค
เช่นที่ Nymphenburg. อาคารสรงน้ำที่สร้างขึ้นในสมัยโรมัน
เกือบทุกแห่งตั้งอยู่บนแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติซึ่งมีคุณสมบัติช่วยรักษาโรค. เมือง Baden-Baden ในประเทศเยอรมนี
มีชื่อเสียงเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมอาคารสรงน้ำที่มีที่นั่นตั้งแต่ยุคโรมัน
และมีอาคารสรงน้ำที่สร้างขึ้นในยุคหลังและยังมีการสร้างติดต่อมาจนถึงสมัยใหม่. มีบันทึกระบุว่า จักรพรรดิโรมัน Caracalla (ชื่อจริงคือ Marcus Aurelius
Antonius Bassianus, 118-217) เคยไปที่นั่นอาบน้ำแร่บ่อยๆเพื่อรักษาโรครูมาติซึม. ในศตวรรษที่ 12
เมืองนั้นเป็นที่อยู่ของเจ้าเมือง Bade. ในศตวรรษที่ 16 Paracelse (1493-1541) ชาวสวิสผู้เป็นบิดาแห่งการแพทย์สมัยใหม่ได้ไปที่นั่นเพื่อรักษาโรคให้คนในตระกูลเจ้าผู้ครองเมืองนั้น.
สี่ภาพข้างล่างนี้ จากอาคารสรงน้ำ -
Badenburg ที่เป็นอีกอาคารหนึ่ง
ภายในพระราชอุทยาน Nymphenburgที่สร้างขึ้นในปี1721.
Badenburg อาคารสรงน้ำ ด้านหน้าแบบเรียบง่ายไม่ใหญ่นัก.
ภายในอาคารมุมหนึ่งมีอ่างน้ำเล็ก(สำหรับล้างมือ)
ประดับด้วยรูปปั้นเด็กขี่หลังปลาโลมา.
ที่น่าสนใจคือในห้องโถงของอาคารนี้มีกระดาษปิดผนังแบบจีน
ทั้งคนทั้งทิวทัศน์ตามแบบจิตรกรรมจีน.
ห้องที่ใช้อาบหรือแช่น้ำนั้น
ทำเหมือนสระน้ำขนาดเล็กพื้นราบเสมอกัน ลึกขนาดความสูงของคน.
ในสมัยก่อนมีเจ้านายลงอาบน้ำ จึงเปิดน้ำถึงระดับก๊อกน้ำที่เห็นในภาพ.
มีที่นั่งสองขั้นติดกำแพงด้านที่เปิดเป็นช่องหน้าต่าง.
เป็นช่องให้ไอน้ำร้อนผ่าน. เข้าใจว่าหลังกำแพงติดตั้งระบบน้ำทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น.
ภายในปราสาท Alcázar เมือง Sevilla ประเทศสเปน มีสวนและสระน้ำพุที่สวยงาม
และที่แปลกกว่าที่อื่นคือ ใต้ระดับพื้นสวน เป็นอาคารสรงน้ำที่สร้างเป็นแนวตรงยาว.
การสร้างสถานสรงน้ำนั้น ชาวตะวันตกรับมาจากชาวอาหรับหลังจากที่ได้ไปเห็นในแถบตะวันออกกลางเมื่อกองทหารคริสต์เดินทางไปรบในสงครามครูเสด.
อาคารสรงน้ำที่นั่นเคยมีมาแล้วตั้งแต่ศตวรรษที่ 12. ทางการให้บูรณะและสร้างบนตำแหน่งที่ตั้งเดิม
พร้อมสร้างทางเชื่อมกับสวนระดับบน เรียกกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ว่า Baños de Doña
María de Padilla (อาคารสรงน้ำของคุณหญิงมาเรีย ปาดียา).
น้ำพุเทพเนปจูน เทพเจ้าแห่งท้องทะเลตั้งบนทางเข้าอาคารสรงน้ำใต้ระดับพื้นสวน
ทางเข้าอยู่ตรงประตูโค้งที่เป็นอิฐสีแดงสลับสีเหลืองที่เห็นด้านหลัง.
สระน้ำรูปยาวที่อยู่ภายใน
น้ำในสระสะท้อนแนวเพดานโค้งแหลมที่อย่างสวยงาม.
สองข้างสระน้ำมีขอบสระเป็นที่นั่งพักได้ในระหว่างการสรงสนาน. ลึกเข้าไปข้างในสุดที่เห็นเป็นกำแพงปิดและมีรูเป็นช่องๆนั้น
คือปากทางน้ำไหลลงสู่สระน้ำ.
ภาพข้างล่างนี้ จาก Villa Kerylos เป็นวิลลาที่สร้างและตกแต่งตามแบบสถาปัตยกรรมกรีกโบราณ สร้างขึ้นในทศวรรษที่1900 อยู่ที่เมือง Beaulieu-sur-Mer
(ใกล้เมืองนีซ- Nice) ประเทศฝรั่งเศส.
Theodore Reinach ผู้เป็นเจ้าของเป็นนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสผู้หลงใหลสถาปัตยกรรมกรีกโบราณ
การตกแต่งและศิลปะจากโลกโบราณ จึงตัดสินใจสร้างที่อยู่อาศัยของเขา
ให้มีบรรยากาศสงบและหรูของวิลลากรีก. ที่ตั้งของวิลลาริมฝั่งทะเล
ยิ่งทำให้วิลลานี้โดดเด่นเหมือนเมืองริมฝั่งทะเลในกรีซ. ตั้งแต่ปี 1966 กระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศส ได้จดทะเบียนประกาศให้วิลลานี้เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของประเทศ.
ภาพถ่ายมุมสูงแสดงที่ตั้งของ
Villa Kerylos
ริมฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน
ของ Christophe Recoura เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน
2007, จาก Wikimedia Commons ตามหลักการ CC-BY-SA-3.0
หนึ่งในห้องส่วนตัวคือห้องอาบน้ำของที่นั่น
ที่เป็นหินอ่อน นอกจากสุขภัณฑ์อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำและอื่นๆแล้ว
ยังมีบริเวณสระน้ำแร่สำหรับแช่ตัวตามแบบบ้านกรีกโรมันโบราณ. พื้นสระน้ำปูประดับด้วยโมเสกเป็นภาพสัตว์น้ำในจินตนาการกรีซโรมัน เป็นสระน้ำที่หาดูได้ยาก.
อาคารสรงน้ำที่สวยงามเหมือนพระราชวัง บนแหล่งน้ำพุใต้ดินที่เป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติที่มีคุณภาพสูงมาตั้งแต่ยุคโรมันผู้ตั้งสถานอาบน้ำสปาแห่งแรกๆ ตามด้วยชาวเติร์กผู้นำวิถีอาบน้ำ Turkish baths ไปเผยแพร่ที่เมือง Budapest ในศตวรรษที่16 และต่อมาในศตวรรษที่19-20 วิถีวารีบำบัดควบคู่ไปกับการรักษาด้วยสมุนไพรธรรมชาติ ยืนยันชื่อเสียงของสถานสปาแห่งนี้ ที่ได้สืบทอดประเพณีวารีบำบัดเรื่อยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุคโบราณ. Szechenyi Furdo ชื่ออาคารสวยงามอลังการของสถานอาบน้ำนี้ Gyozo Czigler (Győző Czigler) เป็นผู้ออกแบบและเริ่มใช้ตั้งแต่ปี1909 เป็นต้นมา. ความหรูหราของอาคารยืนยันความสำคัญของการอาบน้ำแร่ที่เป็นทั้งเพื่อสุขอนามัยที่ดีสำหรับปวงชน และเพื่อการคบหาสมาคม การเจรจาธุรกิจตลอดจนการหาเพื่อนหาคู่พร้อมกันไป เป็นสังคมเฉพาะแบบของชาวฮังการี โดยเฉพาะที่เมือง Budapest ที่ได้ชื่อว่า City of Baths.
Szechenyi Furdo เป็นสถานอาบน้ำและสปา
ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีสระน้ำภายในอาคาร15 สระ
ที่แยกอุณหภูมิและคุณภาพของน้ำแร่ต่างๆกันในแต่ละสระ กับมีสระน้ำกลางแจ้งนอกอาคารอีกสามสระใหญ่ดังเห็นได้จากภาพข้างล่างนี้.
Battery พื้นที่แนวยาวติดกำแพงป้อมหรือปราสาท
เป็นที่ตั้งของปืนใหญ่.
ปืนใหญ่เหล่านี้ดั้งเดิมใช้ป้องกันการบุกรุกของศัตรู
ต่อมากลายเป็นสิ่งประดับอย่างหนึ่ง และเป็นจุดมองชมทิวทัศน์ไปด้วย เนื่องจากอยู่สูงบนกำแพงเมือง.
ปืนใหญ่ที่ยังคงวางเรียงโชว์อยู่ใกล้ตำหนักของพระเจ้า Carlos V ในพระราชอุทยาน
Alhambra & Generalife (เมือง
Granada ประเทศสเปน)
ที่ปราสาทเมือง Edinburgh
(ในสก็อตแลนด์
เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์แห่งสก็อตแลนด์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11) ยังมีปืนใหญ่ตั้งอยู่ติดกำแพงสามแห่ง (ที่ Forewell Battery, Argyle
Battery และ Butt’s
Battery). ภาพถ่ายนี้จากกระบอกปืนใหญ่ที่
Forewell Battery เห็นทิวทัศน์เมืองบนถนน
Princes Street. บริเวณนี้เคยเป็นแนวป้องกันศัตรูในยุคกลาง. ในปี 1544 พระเจ้า Henry
VIII ทรงให้บูรณะพื้นที่บนป้อมนี้ใหม่ ส่วนปืนที่เห็นสร้างขึ้นในปี
1810.
ปราสาทในภาพข้างล่างนี้ เป็นฉากในภาพยนต์หลายเรื่องของอังกฤษ. เรื่องหนึ่งคือ Harry Potter ใช้ปราสาทนี้เป็น Hogwarts Castle ในนวนิยายโดยเฉพาะตอน Harry Potter and the Philosopher’s Stone และตอน Harry Potter and the Chamber of Secrets. ภายในมีพื้นที่สำหรับตั้งปืนใหญ่เพื่อการปกป้องปราสาท ปืนใหญ่ทั้งหลายถูกเลื่อนถอยออกจากกำแพงเมืองแล้วในปัจจุบัน กลายเป็นองค์ประกอบประดับทางประวัติศาสตร์ไป.
ปราสาทในภาพข้างล่างนี้ เป็นฉากในภาพยนต์หลายเรื่องของอังกฤษ. เรื่องหนึ่งคือ Harry Potter ใช้ปราสาทนี้เป็น Hogwarts Castle ในนวนิยายโดยเฉพาะตอน Harry Potter and the Philosopher’s Stone และตอน Harry Potter and the Chamber of Secrets. ภายในมีพื้นที่สำหรับตั้งปืนใหญ่เพื่อการปกป้องปราสาท ปืนใหญ่ทั้งหลายถูกเลื่อนถอยออกจากกำแพงเมืองแล้วในปัจจุบัน กลายเป็นองค์ประกอบประดับทางประวัติศาสตร์ไป.
ภาพถ่าย Alnwick Castle ของ Phil Thomas เมื่อวันที่
2 เมษายน 2009. [CC BY 2.0], via
Wikimedia Commons.
Battery ที่ปราสาท Alnwick [แอ๊นนิก]
(Northumberland ประเทศอังกฤษ).
----------------------------------
B-3
>> Beautiful, Bed, Belt, Belvedere, Berceau, Biennials, Blade.
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/01/b-3-belvedere.html
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/01/b-3-belvedere.html
เมนูหนังสือ
ประมวลความรู้จากศัพท์อุทยานศิลป์
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/06/mygardenbook-menu.html
Comments
Post a Comment