Beautiful
“สิ่งที่สวย” เป็นอย่างไร? ในอังกฤษ Sir Uvedale Price และ Richard Payne Knight
ได้ให้คำจำกัดความว่า เป็นสิ่งที่มีพื้นผิวหน้าราบเรียบ
ไม่เป็นลูกเป็นลอน ไม่หยาบระคายมือ ไม่มีเส้นหรือหักเป็นมุมเป็นเหลี่ยม
ไม่มีอะไรสะดุดการสัมผัสแบบต่างๆ. ความคิดเชิงสุนทรีย์ดังกล่าวในศตวรรษที่18
ยังอาจโยงไปถึงผลงานด้านจิตรกรรมของ Hogarth ในทศวรรษที่ 1750 ที่ใช้รูปลักษณ์ของเส้นโค้งหรือลูกคลื่น. Edmund Burke ในหนังสือของเขา
ชื่อ“The
Sublime and the Beautiful” (ปี 1757) ได้รวมคุณสมบัติด้านรูปลักษณ์(ความอ่อนช้อย)
ด้านสัมผัส(ความนุ่มนวล)
และด้านความรู้สึก(ความอ่อนโยน)
เข้าด้วยกันในความหมายของคำ beautiful. ส่วนความหมายของ Sublime (อาจแปลคร่าวๆว่า “สิ่งที่สุดยอด”) รวมคุณสมบัติที่เร้าอารมณ์ความรู้สึกประทับใจแบบต่างๆ รวมทั้งสะกดให้รู้สึกทั้งเกรงทั้งกลัวและชื่นชมพร้อมๆกัน. เขาสรุปว่าคำ Picturesque น่าจะใช้อธิบายความเห็นที่อยู่ระหว่างสิ่งที่สวยกับสิ่งที่สุดยอด.
Belt คำนี้เริ่มใช้ในอังกฤษยุคศตวรรษที่18 เมื่อมีการเนรมิตสวนแบบสวนลดเลี้ยว (The Serpentine style) มีลักษณะเด่นๆดังนี้
Bed แปลงดินที่จัดสำหรับปลูกดอกไม้
ผัก และพุ่มไม้ มักทำรั้งต้นไม้เป็นขอบเตี้ยๆ ล้อมแปลงดินนั้น. บางทีใช้อิฐ
ก้อนหิน ขวดเปล่าเช่นขวดไวน์หรือกระป๋องเครื่องดื่ม มาวางเป็นแนวขอบ.
บางทีพืชพรรณที่ปลูกภายในแผ่กิ่งก้านออกมานอกขอบและที่คนสวนปล่อยทิ้งไว้เพื่อเป็นภาพของ“ความไม่สม่ำเสมอ”ตามธรรมชาติในสวน
เพราะฉะนั้นขอบกำหนดแนวพื้นที่ของแปลงดอกไม้จึงอาจทำให้เห็นชัดเจน
สวยงามและเป็นระเบียบ หรือปล่อยให้ต้นไม้พืชพรรณบังจนมองไม่เห็นก็ได้ ดูตัวอย่างแปลงดอกไม้ต่อไปนี้
ภาพจากวงเวียนแห่งหนึ่งในเมือง Burgos
ประเทศสเปน. แสดงแปลงดินที่มีแนวพุ่มไม้เตี้ยๆเป็นขอบ.
ภาพนี้ถ่ายในปลายฤดูหนาวต้นฤดูใบไม้ผลิ แปลงดินที่เห็นยังอยู่ในสภาพตระเตรียมเพื่อปลูกดอกไม้
มีทางเดินปูด้วยแผ่นหินวนเป็นวงกลมไปรอบๆประติมากรรมตรงกลางวงเวียน.
ประติมากรรมนั้นประกอบด้วยอ่างน้ำขนาดใหญ่ทรงกลม ลักษณะของอ่างเก็บน้ำศักดิ์สิทธิ์สำหรับพิธีศีลจุ่มหรือพิธีรับศีลล้างบาปในสมัยก่อน
ตั้งบนเสาคอลัมน์สี่เสา มีลวดลายจำหลักนูนประดับโดยรอบ รูปแบบของศิลปะไบแซนไทน-โรมัน.
จากอุทยาน Drummond Gardens (ในเทศมณฑล Perthshireสก็อตแลนด์) เห็นแปลงดอกกุหลาบแดงภายในกรอบสูงของต้น box (ดอกจันสีขาว) ต่ำลงที่พื้น มีแปลงปลูกไม้ล้มลุกเตี้ยๆสีม่วงอ่อนๆลงดินเป็นแนวยาว(ดอกจันสีแดง)
เหมือนปรับระดับพื้นที่ให้สวย
ลดความแข็งของแนวตัดตรงของกรอบต้นบ๊อกส์.
แปลงดอกไม้ด้านหน้า ช่วยให้ดูนุ่มนวลกว่า เหมือนสร้างพื้นที่หลายระดับ ก่อนไปหยุดที่พื้นสนามราบ. สวนที่นั่นจัดเป็นสวนแบบแผนที่สวยงามมากที่สุดสวนหนึ่งในยุโรป.
ที่สวนพฤกษชาติ Kew
Gardens (ลอนดอน
ประเทศอังกฤษ) จัดแปลงปลูกต้นไม้บนพื้นสนามอันกว้างใหญ่.
แต่ละแปลง ปลูกดอกไม้ที่มีสีสันเดียวกันหรือในโทนสีใกล้เคียงกัน
แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นพันธุ์เดียวกันหมด
เลือกพันธุ์ไม้ต่างประเภทที่มีความสูงต่างๆกัน
เป็นแนวการปลูกดอกไม้ที่อังกฤษเริ่มขึ้น
เพื่อให้ผิดไปจากแนวแบบแผนที่มักใช้ดอกไม้พันธุ์เดียวชนิดเดียวกันทั้งหมดในแต่ละแปลง.
แปลงดอกไม้หลากสีในฤดูร้อนที่ Villa Taranto ที่เป็นสวนพฤกษศาสตร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบ Lago Maggiore ประเทศอิตาลี.
แปลงดอกไม้หลากสีในฤดูร้อนที่ Villa Taranto ที่เป็นสวนพฤกษศาสตร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบ Lago Maggiore ประเทศอิตาลี.
สวนแบบแผนเช่นสวน Pitmedden
Garden (เมือง Ellon ในเทศมณฑล Aberdeenshire สก็อตแลนด์) เป็นหนึ่งในสวนแบบแผนที่เหลือไม่กี่แห่งบนเกาะอังกฤษ
และเป็นสวนที่มีแปลนการปลูกไม้ดอก โดยจัดให้เป็นลวดลายบนพื้น (ดูที่คำ
broderie, parterre, parterre de broderie). แปลงดอกไม้เป็นเส้นเป็นแนวและเป็นลายที่เรียบชัด ตัดเล็มเสมอหาที่ติมิได้เลย เนื่องจากแปลนสวนดีเด่นในตัว
การเลือกปลูกไม้ดอกภายในแต่ละแปลงใช้ดอกไม้ชนิดเดียว ต้นขนาดเดียวกัน
และสีเดียวกัน จึงยิ่งส่งให้เห็นภาพรวมของแปลนสวนและลวดลายทั้งหมดโดดเด่นชัดเจน.
Bedding out
กระบวนการนำดอกไม้ลงดิน(ส่วนใหญ่เป็นไม้ล้มลุก)
จากที่หว่านหรือปลูกไว้ในกระถางภายในเรือนกระจกก่อน พอได้เวลา จึงย้ายต้นจากกระถางลงดิน. วิธีการนี้
ทำให้สามารถสลับเปลี่ยนดอกไม้ได้หลายพันธุ์ บนที่ดินแปลงเดียวกัน.
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ๆใช้วิธีการปลูกดอกไม้สลับแบบนี้
เพื่อให้มีดอกไม้ประดับตลอดทั้งปี เช่นเมื่อหมดหน้าของดอกทิวลิป ก็ยกต้นออก
ปกติจะเพาะหรือแยกหน่อลงกระถาง เลี้ยงดูภายในเรือนกระจก จนถึงหน้าออกดอกของมันในแต่ละปี เมื่อยกต้นทิวลิปออกไปทั้งหมดแล้ว
ก็นำดอกไม้อีกชนิดหนึ่งลงบนแปลงดินนั้น. ที่ Hampton Court ใช้กระบวนการปลูกแบบนี้มาตั้งแต่ทศวรรษที่
1830 ในที่สุดเป็นกิจกรรมของสวนทุกแห่ง. สวนขนาดใหญ่จึงมีพื้นที่จัดเป็นโรงเพาะชำ
ที่นั่นคนสวนเลี้ยงดูต้นไม้ที่เปราะบางในกระถางขนาดใหญ่ (เช่นต้นจำพวกส้ม มะนาว) ที่นำออกไปตั้งประดับสวนเมื่ออุณหภูมิอบอุ่นเพียงพอ
และปลูกไม้ล้มลุกในกระถางขนาดเล็กเพื่อนำไปปลูกลงดินในแปลงดอกไม้ สับสับเปลี่ยนตามฤดูกาลในสวน
และมีอาคารปรับอุณหภูมิสำหรับพืชพันธุ์ที่เปราะบางเช่นพันธุ์ไม้ต่างถิ่นต่างภูมิอากาศเป็นต้น.
Bedding plants
คือพืชพรรณ(ส่วนใหญ่ใช้ไม้ดอกสีสดๆ) ที่นำออกจากโรงเพาะเลี้ยงไปปลูกลงดินบนแปลงดอกไม้ตามฤดูกาล. บางทีก็ปลูกลงดินเป็นชั่วระยะเวลาสั้นๆที่ดอกไม้ยังสวยและสด
เพื่อประดับตกแต่งสวน มักเป็นพืชพรรณที่วงจรชีวิตสั้นเพียงหนึ่งฤดูหรือสองฤดู. โดยทั่วไป นับชีวิตของพืชพรรณประเภทนี้นับตั้งแต่เมื่อยังอยู่ในกระถางภายในโรงเพาะเลี้ยงหรือเรือนกระจก.
Beehives
รวงผึ้ง รังผึ้ง ที่น่าสนใจเป็นพิเศษและดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ทางชาติพันธุ์แบบหนึ่งของชาว
Slovenia ดังภาพ “บ้านผึ้ง”ข้างล่างนี้ คือแต่ละบล็อกสี่เหลี่ยมที่เป็นบ้านผึ้งมีประตูแบบยกขึ้นและปิดลง. ให้สังเกตว่ามีขอบจับเล็กๆเป็นแนวยาวอยู่ตอนล่างของประตู
และมีสีต่างกันในบ้านแถบเดียวกัน. บนประตูของแต่ละบ้านผึ้งมีภาพวาดแสดงวิถีชีวิตหรือกิจการงานแบบต่างๆ. เชื่อว่าผึ้งแต่ละตัว จำได้ว่าบล็อกไหนคือบ้านมัน เพราะมันจำสีประตูบ้านของมันได้. การวาดภาพและทาสีประตูบ้านผึ้งแบบนี้ เป็นงานหัตถกรรมของชาวสโลเวเนียที่ผิดไปจากชนชาติอื่น. (ดูรายละเอียดเกี่ยวกับรังผึ้ง
บ้านผึ้งได้ที่คำ Apiary)
Belt คำนี้เริ่มใช้ในอังกฤษยุคศตวรรษที่18 เมื่อมีการเนรมิตสวนแบบสวนลดเลี้ยว (The Serpentine style) มีลักษณะเด่นๆดังนี้
1)
แนวต้นไม้ใหญ่ที่ปิดล้อมที่ดิน เหมือนเป็นรั้วกำหนดเขตแดนของอาณาบริเวณทั้งหมด
อาจมีถนนหรือทางเดินควบคู่ไปกับแนวต้นไม้นั้นด้วยหรือไม่ก็ได้ เรียกว่าเป็น“เข็มขัด”ล้อมรอบที่ดิน (encircling belt คือทางเดินที่ล้อมรอบที่ดินผืนหนึ่ง
ดุจเดียวกับถนนวงแหวนที่ล้อมรอบปริมณฑลของเมือง). Capability Brown (ชื่อจริงคือ Lancelot Brown สถาปนิกสวนภูมิทัศน์ชาวอังกฤษ, 1716-1783 เป็นผู้นำแนวเส้นลดเลี้ยวเข้าไปใช้ในแปลนสวน)
ใช้ต้นไม้ปลูกเป็น “เข็มขัด”
บอกอาณาบริเวณในงานสร้างสรรค์สวนของเขาหลายแห่งในประเทศอังกฤษ. “เข็มขัดต้นไม้”แบบนี้
ตรงข้ามกับอุดมการณ์ของ William
Kent (1685-1748, สถาปนิกชาวอังกฤษ) ผู้ไม่นิยมสร้างรั้วล้อมพื้นที่
ไม่ว่าจะเป็นรั้วแบบใด เขาต้องการให้พื้นที่เปิดโล่ง เหมือนไม่มีขอบเขตจำกัด.
อุดมการณ์ด้านภูมิทัศน์ของเขาเท่ากับดึงภูมิประเทศโดยรอบ ให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของภูมิทัศน์พื้นที่นั้นด้วย.
2) เส้นทางวงแหวนโดยรอบพื้นที่ผืนหนึ่ง. จากเส้นทางนี้
สามารถมองเห็นหรือมองข้ามไปยังอาคารต่างๆหรือมุมเด่นๆของอาณาบริเวณได้ถนัด.
3)
แนวต้นไม้ที่ปลูกเพื่อกำหนดพื้นที่หนึ่งที่ต้องการให้เด่นเหนืออาณาบริเวณใหญ่รอบข้าง.
Belvedere
เป็นคำในภาษาอิตาเลียน อ่านว่า [เบ็ล-เวเด๊เร] ในภาษายุโรปอื่นๆจะออกเสียงตามคำฝรั่งเศสมากกว่าเป็น
belvédère [เบ็ลเวแดรฺ] (เป็นคำประสมจากคำว่า
สวย บวกกับคำว่า มอง จึงหมายถึง มองดูสวย). คือจากจุดนั้นในพื้นที่
มองออกไปเห็นภูมิทัศน์สวยงามชวนชม. อาคาร belvedere อาจเป็นตึก หรืออาคารเปิดทุกด้าน
หรือเป็นมุมหนึ่งของอาคารใหญ่ที่ยื่นออกเป็นเฉลียงหรือพื้นนอกชานและเป็นจุดชมทิวทัศน์ได้.
ดั้งเดิมอาคารเบลเวเดเรนี้ใช้เหมือนป้อมที่ทหารยามเฝ้าสังเกตการณ์
ส่องจับผู้รุกราน เป็นจุดยุทธศาสตร์ด้วยเพราะตั้งอยู่บนพื้นที่สูง ทำให้มองบริเวณรอบๆได้กว้างและไกล.
ต่อมาในยามสงบก็ใช้เป็นจุดชมทิวทัศน์และกลายเป็นอาคารประดับอุทยานขนาดใหญ่ๆแบบหนึ่ง
เช่น ในพระราชอุทยาน Charlottenburg (ที่จังหวัด Potsdam ประเทศเยอรมนี) ปัจจุบันใช้เป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องถ้วยชามพอร์สเลนชิ้นงามเลิศ. เนื่องจากมีนัยของการมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม
คำนี้จึงใช้เป็นชื่อเรียกพระราชวังหลายแห่งในโลก เช่นที่กรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย
เรียกพระตำหนักใหญ่ตำหนักหนึ่ง ภายในพระบรมมหาราชวัง Schönbrunn. คำ Belvedere นี้ยังใช้เรียกอาคารหรือวิลลาอื่นๆ(รวมทั้งโรงแรม)อีกหลายแห่งในโลกและมักออกเสียงตามแบบฝรั่งเศสเป็น[เบ็ลเวแดรฺ](แต่ชาวอังกฤษหรืออเมริกันออกเสียงเพี้ยนไปเป็น [เบลวิเดียร])
ความหมายสำคัญของคำนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
คือเน้นว่าที่ตรงนั้นเป็นจุดชมทิวทัศน์สวยงามรอบข้าง.
อาคาร Belvedere
ภายในพระราชอุทยาน
Charlottenburg (Berlin
ประเทศเยอรมนี). พระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระนางเจ้า
Sophie-Charlotte พระมเหสีในพระเจ้า
Frederic I (1657-1713) ผู้ทรงโปรดพระมเหสีเป็นพิเศษ
จึงเรียกชื่อวังตามชื่อของพระนาง. เป็นอาคารสามชั้น
บนพื้นที่ทรงรี ผลงานของ K.G.Langhans สร้างขึ้นในปี
1788. ตอนนั้นสร้างเพื่อใช้เป็นอาคารน้ำชา
ต่อมาถูกทำลายไปในระหว่างสงครามและบูรณะขึ้นใหม่ในปี 1971
นับเป็นอาคารที่งามเรียบ สมส่วนและสง่า และใช้เป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องกระเบื้องเคลือบ
(Berlin Porcelain Museum) ตั้งแต่นั้นมา
รวมเครื่องลายครามชิ้นสวยงามของประเทศตั้งแต่ชิ้นแรกๆที่ผลิตขึ้นในปี 1763.
มีมากกว่า 700
ชิ้นและรวมชุดกระเบื้องเคลือบส่วนพระองค์
อันเป็นผลงานยอดเยี่ยมของแหล่งผลิตเครื่องกระเบื้องเคลือบประจำราชวงศ์ปรัสเซีย
ที่ตั้งขึ้นในปี 1751 (Königliche
Porzellan Manufaktur, Berlin ใช้ชื่อย่อว่า KPM)
อาคาร Belvedere สีขาวที่เห็นอยู่สูงลิบบนยอดเขาท่ามกลางป่าไม้ (ดูตรงดอกจันสีแดง)
จากอุทยานปราสาท Chatsworth (ในเทศมณฑล Derbyshire ประเทศอังกฤษ)
ที่นำมาให้ดูเพื่อให้เห็นว่า อาคารแบบนี้ตามความหมายดั้งเดิมตั้งอยู่ในที่สูง
ตรงจุดยุทธศาสตร์. ปราสาทในอังกฤษส่วนใหญ่
ให้ความสำคัญต่อการป้องกันการรุกราน ก่อนที่ปราสาทเหล่านั้นเปลี่ยนไปเป็นอุทยานเปิดให้ประชาชนเข้าชมในสมัยปัจจุบัน.
ภาพข้างล่างนี้คือภูมิทัศน์ที่ตั้งตำหนักอุทยาน Schloss Belvedere ที่กรุงเวียนนา เป็นที่ประทับของเจ้าชาย Eugène [เออ-แจน](Prince Eugène de Savoie-Carignan, 1663-1736, เชื้อสายเป็นชาวฝรั่งเศสและมารับใช้พระจักรพรรดิออสเตรีย. เป็นนักการสงครามคนสำคัญในประวัติศาสตร์ยุโรป
ทรงเป็นนักมานุษยนิยม มีความรอบรู้ด้านศิลปะทั้งหลายอย่างดีด้วย) แปลนสวนที่นั่นเป็นผลงานของ Dominique Girard ระหว่างปี 1700-1725. พื้นที่ยาวแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า
เนรมิตเป็นสวนยาวระหว่างสองตำหนักคือตำหนักบน (ที่สร้างขึ้นระหว่างปี 1721-1722)และตำหนักล่าง (อยู่ปลายเนิน ที่สร้างขึ้นก่อน,ระหว่างปี 1714-1716). สถาปัตยกรรมแบบบาร็อคของทั้งสองตำหนักเป็นผลงานของสถาปนิก Johann Lucas von
Hildebrandt ตามแนวทัศนมิติของสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส
ที่เน้นให้เห็นตำหนักเด่นสง่าจากที่ไกล.
จิตรกรรมภาพสวนมองจากตำหนัก
Upper
Belvedere ผลงานของ Bernardo
Bellotto (Il Canaletto), ราวปี 1758.
[Public domain], via Wikimedia Commons.
ตำหนักบน (Upper Belvedere)
ตำหนักล่าง (Lower Belvedere)
ส่วนภาพนี้ คืออาคาร Belvédère ภายในบริเวณอุทยาน Le Petit
Trianon [เลอ เปอติ๊ ธรีอา-นง] (ส่วนหนึ่งของพระราชอุทยาน
Versailles) เป็นอาคารแปดเหลี่ยมขนาดเล็กมาก เพียงพอสำหรับคนเข้าไปยืนได้ไม่เกินสิบคน
ข้างๆทางขวาในภาพ เห็นถ้ำใหญ่ (ดูคำ grotto) ที่เนรมิตขึ้นประดับสวนตามค่านิยมแบบ(นีโอ)คลาซสิก.
Berceau
เป็นคำฝรั่งเศสอ่านว่า [แบรฺ-โซ่] หมายถึงซุ้มต้นไม้ ที่มีโครงเหล็กเป็นตัวคุมการตัดและจัดกิ่งไม้. ซุ้มยาวต่อเรียงกันไปในลักษณะของอุโมงค์ที่มีเพดานโค้ง. โครงเหล็กเป็นที่เกาะของพันธุ์ไม้เลื้อย
เช่น ต้นองุ่น ต้นกุหลาบ บางทีต้นแอปเปิลด้วย. คนสวนจัดกิ่งให้มันงอกเลื้อยไปตามโครงสร้างเหล็ก
หรือจัดให้กิ่งอ่อนๆพันรอบโครงเหล็ก. (บางคนใช้คำนี้ในความหมายเดียวกับคำ arbour) คำ Percola ในปัจจุบันก็ใช้ในความหมายเดียวกันนี้. แต่ในศตวรรษที่ 16 คำ berceau หมายถึงชานกว้างใหญ่
มีเสาไม้หรือโครงเหล็ก เป็นระยะๆ ห่างๆกัน คนนิยมปลูกต้นไม้บนชาน โดยเฉพาะพันธุ์ไม้เลื้อย
จัดให้กิ่งก้านขึ้นบนเสาและแผ่ออกให้ร่มเงาบนเฉลียง. (ดูตัวอย่างภาพที่คำ arbour และ percola). คำนี้บางทีก็ใช้รวมเรียกภาพน้ำพุที่พุ่งออกจากฝั่งสองข้างไปประจบพบกันเป็นครึ่งวงกลม
ดูภาพประกอบข้างล่างนี้
ภาพซุ้มต้นไม้- berceau เป็นแนวยาวเหมือนอาร์เขต สามารถเดินเล่นภายในซุ้มได้อย่างสบายและร่มรื่นกาย
และมองชมวิวข้างนอกได้จากส่วนที่ตัดเป็นหน้าต่างโค้ง. ซุ้มนี้จัดทำเป็นระเบียบอย่างไม่มีที่ติ จากพระราชอุทยาน Het
Loo ในประเทศเนเธอแลนด์
อุทยานที่นั่นได้ชื่อว่าเป็นแบบอย่างสวนแบบแผนที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก.
ภาพภายในอุโมงค์ต้นไม้จากอุทยาน Linderhof
ในเยอรมนี.
ภาพน้ำพุทรงโค้งแบบอาร์คที่อุทยานปราสาท
Alcázar de Córdoba ประเทศสเปน. สวนสเปนมีสระน้ำพร้อมน้ำพุเสมอ แต่เป็นขนาดเล็กกว่าสระน้ำพุในอุทยานใหญ่ๆของฝรั่งเศสหรือเยอรมนี. ให้ความรู้สึกว่าเป็นสระน้ำในขนาดที่สมมาตรกับสัดส่วนของคน. คนเดินชมสวนไม่รู้สึกว่าถูกข่ม
เสียงน้ำพุเส้นเล็กๆก็ระรื่นหูมากกว่าน้ำพุที่พุ่งตรงขึ้นเป็นลำสูงลำเดียวหรือที่ตกดังก้องข่มขวัญ. สายน้ำพุเส้นเล็กตกลงบนน้ำ
ให้เสียงเบาละเอียดที่ฟังได้ไม่เบื่อ และชุ่มชื่นใจยิ่งนัก.
Biennials หมายถึงพืชพันธุ์ที่เติบโตงอกเงยในหนึ่งฤดู
มีชีวิตต่อในฤดูหนาว แล้วออกดอกและให้เมล็ดในปีที่สอง เช่น ต้น foxgloves, carrots,
lettuce และ Celery.
Biological Control เป็นกรรมวิธีทางชีววิทยาที่นำมาใช้เพื่อลดจำนวนศัตรูพืชในสวน ด้วยการนำศัตรูธรรมชาติของมันเองเข้าไปปราบ
เช่นต้องการกำจัดทากที่แทะเล็มใบไม้ในสวนจนเสียหาย นำกบเข้าไปปล่อยในสวนเพื่อให้กบไปจัดการกับตัวทาก. กบจึงช่วยควบคุมปริมาณทากในสวนได้.
Bird cage ดูตัวอย่างภาพกรงนกขนาดเล็กๆข้างล่างนี้. ส่วนกรงนกขนาดใหญ่ๆนั้น ตามไปชมตัวอย่างได้ที่คำ aviary.
ทั้งสามภาพจากสวน
Le
Clos Alexandre, Amiens, France.
โคมไฟกรงนกประดับด้วยดอกไม้ใบไม้พอร์สเลนแบบหนึ่งที่ Villa
Ephrussi de Rothschild (Saint-Jean-Cap-Ferrat, France).
Blade ส่วนที่ราบแบนของใบไม้หรือของกลีบดอกไม้. นอกบริบทของสวน
คำนี้หมายถึงใบมีด เช่นใบมีดโกน.
--------------------------------------------
B-4
>> Boat house, Bollard, Bonsai, Border, Bosco, Bosquet, Botanic garden.
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/01/b-4-border.html
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/01/b-4-border.html
เมนูหนังสือ
ประมวลความรู้จากศัพท์อุทยานศิลป์
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/06/mygardenbook-menu.html
Comments
Post a Comment