C-7 College garden

College garden เป็นที่รู้กันดีว่า สวนภายในสถาบันต่างๆที่เมือง Oxford และเมือง Cambridge มีส่วนสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัยทั้งสองเมือง. ภายในสวนเหล่านั้น มีทางเดินและจัดเป็นแปลงดอกไม้หรือสร้างพื้นที่โดยรักษาต้นไม้ใหญ่ต้นงามๆไว้(และที่เติบโตมาจนทุกวันนี้ แผ่ร่มเงาให้นักศึกษาได้นั่งโต้เถียงขบคิดปัญหาและการวิจัย) พุ่มไม้และสนามหญ้า เป็นสิ่งที่ขาดมิได้เลย โดยเฉพาะที่เมืองเคมบริดจ์ ด้านหลังของสถาบัน (the Back) มีแม่น้ำแคม(the river Cam) ไหลผ่าน เห็นสนามหญ้าผืนใหญ่ติดฝั่งแม่น้ำแคมเช่นด้านหลังของ St. John’s College และของ Clare College รวมทั้งสวนร่มรื่นของ Clare College ที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนการสอนและการค้นคว้าอย่างยิ่ง. ส่วนใหญ่ สวนเป็นสนามหญ้าผืนใหญ่ตรงกลางพื้นที่สี่เหลี่ยมใหญ่บ้างเล็กบ้าง มีอาคารล้อมรอบที่เป็นห้องอาจารย์ ห้องสมุด ห้องกิจกรรมและที่พักนักศึกษา เช่นที่เมืองเคมบริดจ์.
   ขนบการสร้างสวนภายในสถาบันการศึกษา สืบทอดมาจากสถาบันศึกษา Plato Academy (ที่ Plato สถาปนาขึ้นในปี387 BC.ที่กรุงอาเธนส์ ประเทศกรีซและยุติลงในปี 83 BC.) เล่ากันมาว่าตั้งอยู่ภายในป่าศักดิ์สิทธิ์ มีต้นมะกอกฝรั่งขึ้นเต็ม(sacred grove of olive trees). ป่านี้เป็นที่บวงสรวงเทพอาเธนา (Athena) เทวีแห่งสติปัญญาหรือความฉลาด.
ภาพโมเสคยุคโรมัน Plato’s Academy ศตวรรษที่1 BC.พบที่เมืองปอมเปอี ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Museo Nazionale Archeologico เมืองเนเปิล (Napoli). ภาพจาก Naples National Archaeological Museum [Public domain or CC0], via Wikimedia Commons.
เปลโต (428-348BC) กับนักศึกษาผู้ติดตามเขาในสวนที่กรุงอาเธนส์. ผลงานของ Louis Figuier, 1867, ผู้แกะสลักแผ่นโลหะเล่าเรื่องราวในชีวิตของบุคคลชื่อดังในโลกโบราณ. (Private collection January 01, 1900).
จิตรกรรมบนกระเบื้องเคลือบ เห็น Aristotle คนซ้ายกับ Plato คนขวา กำลังวิเคราะห์วิจารณ์ปรัชญาในสวน จากวิหารนักบุญฟรานซิส (Igreja de São Francisco ในภาษาโปรตุเกส) ที่เมือง Évora ประเทศปอร์ตุกัล. ภาพจากเพจของ Gardenvisit.com
   การเรียนการสอนภายในป่า ย่อมมีส่วนช่วยให้จิตสงบและมีสมาธิในการคิดพินิจพิเคราะห์ปัญหา. สถาบันการศึกษาทุกแห่งจึงต้องมีพื้นที่สนามและสวนเพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนการสอน. เราคงจำเรื่องที่คนเล่ากันมาว่า Sir Isaac Newton ค้นพบกฎแห่งแรงดึงดูดของโลก (law of gravitation) จากการมองเห็นผลแอปเปิลตกลงบนพื้นสวน จากหน้าต่างห้องของเขาที่ Trinity College (Cambridge, UK).
แผนที่ที่ตั้งสถาบันการศึกษา(colleges) ที่เมืองเคมบริดจ์ ได้เจาะจงหมายเลขให้เป็นตัวอย่างสี่สถาบันอย่างคร่าวๆ. หมายเลข1คือ St John’s College, หมายเลข2 คือ Trinity College, หมายเลข3 คือ Clare College, และหมายเลข4 คือ King’s College. ตำแหน่งที่เขียนตัวเลขไว้ คือพื้นที่เขียวหรือสวนภายในสถาบันแต่ละแห่ง. เส้นขีดสีแดงเป็นระยะๆนั้น คือแม่น้ำแคมที่ไหลผ่านด้านหลังของสถาบันการศึกษาหลายแห่ง เรียกพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำบริเวณนี้ว่า The Back. สถาบันหมายเลข 1-3 มีพื้นที่เขียวหรือสวนตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำแคม. แผนที่นี้เป็นตัวอย่างยืนยันว่า สหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับการมีพื้นที่เขียวภายในสถาบันการศึกษามากเพียงใด.
แผนผังของ Clare College (Cambridge) ดอกจันสีแดงระบุตำแหน่งของสวนภายในสถาบัน ซึ่งมีทั้งสองฝั่งแม่น้ำแคม. สวนเล็กๆที่น่าสนใจมากคือ Scholars’ Garden หรือสวนใหญ่พร้อมดอกไม้หลากสีสันที่ Fellows’Garden. การดูแลสวนในแต่ละสถาบันเป็นงานที่ทำต่อเนื่องด้วยคนดูแลสวนมืออาชีพทุกวันทุกฤดูกาล. เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากสำหรับแต่ละสถาบัน.
ต้นเชอรี่ต้นเดียวโดดเด่นตรงทางเข้า Clare College, Trinity Lane
หน้า Porter’s Lodge (ดูแผนผังข้างบน)
เดินทะลุ The Old Court ออกไปทางซ้ายมือคือสวน Scholars’ Garden
Scholars’ Garden ด้านติดสำนักงานกลางของ Clare College
มองข้ามแม่น้ำแคม เห็นสวนเลียบฝั่งของ Clare College
ข้ามแม่น้ำไป เป็นพื้นที่ของ Fellows’ Garden
สนามหญ้าผืนใหญ่พร้อมแปลงดอกไม้ มองกลับไปที่อาคารสำนักงานกลาง
ทางเดินนำไปยังสวน Sunken Garden 
สวน Sunken Garden พร้อมสระบัวบนฝั่งเดียวกันนี้
สนามหญ้าบนสองฝั่งแม่น้ำแคม ในพื้นที่ของ Clare College
อาคารที่เห็นในภาพบน คืออาคารที่ล้อมรอบ The Old Court
แม่น้ำแคมที่ไหลผ่านด้านหลังของอาคารวิทยาลัยที่เป็นที่พักของเหล่านักศึกษามหาวิทยาลัย Cambridge ภาพนี้เป็นมุมหนึ่งของบริเวณดังกล่าว (ที่เรียกว่า The Back) ระหว่างฤดูร้อนเคยมีนักศึกษารับจ้างถ่อเรือล่องไปตามแม่น้ำเพื่อชมสองฝั่งลุ่มแม่น้ำนี้โดยเฉพาะ แต่ปีล่าสุดที่ไปเยือน(ปี2017) ดูเหมือนมีกลุ่มมืออาชีพไปรับจ้างถ่อเรือให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวจีนและทุกชาติ ที่หลั่งไหลไปเที่ยวเมืองเคมบริดจ์. เมื่อเป็นเช่นนี้ บรรยากาศเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง นักท่องเที่ยวส่งเสียงหนวกหู คับคั่งจอแจไปทุกถนน ในที่สุดหลายสถาบันปิดห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปชมหรือเดินเล่นในสถาบัน สวนในสถาบันก็ห้ามเข้าเช่นกัน มีข้อแม้พิเศษต่างๆบังคับมากขึ้น.
DNA Double Helix by Charles Jenck, 2005.
Clare College มีพื้นที่สวนพร้อมประติมากรรมที่โดดเด่นเหนือ colleges อื่นๆ
สนามหญ้าขนาดใหญ่เมื่อเข้าไปใน Trinity College มีประติมากรรมประดับด้วยน้ำพุตรงกลาง. อาคารที่มีหอตะเกียงเหนือหลังคาคือ วัดของสถาบัน (Trinity College Chapel).
สนใจอ่านประสบการณ์ “คนแก่ในเมืองมหาวิทยาลัย” เชิญตามลิงค์ได้ที่นี่.

Colonnade เป็นแถวเสาตั้งเรียงรายไป  เช่นเป็นองค์ประกอบหนึ่งของอาร์เขต arcade หรือของสวนจัตุรัสภายในโบสถ์คริสต์ (Cloister garden). การจัดเรียงเสาเป็นแถวเป็นแนว อาจเป็นเสาหินหรือต้นไม้ที่ตัดเป็นรูปตั้งตรงเหมือนเสา เรียงรายไป.
บริเวณโรงละครThe Maritime Theatre ภายในวิลลา Villa Adriana[วิลลา อะดรีอ๊าหนะ] (หรือHadrian’s Villa) เมือง Tivoli (ใกล้กรุงโรมในแคว้นLazio, Italy). ภาพของ Tango7174, 19 September 2010. (https://creativecommons.org/licenses/by-sa/4.0-3.0-2.5-2.0-1.0), via Wikimedia Commons.

อีกมุมหนึ่งใน Villa Adriana, Tivoli (Lazio, Italy). วิลลานี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่สองยุคของจักรพรรดิHadrian (ชื่อละตินคือAdriana). วิลลานี้ได้ขึ้นทะเบียนยูเนสโกเป็นมรดกโลกในปี1999. ซากปรักหักพังที่ยังเหลือให้เห็นจนถึงทุกวันนี้ ได้เป็นฐานข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมโบราณ เพราะที่นั่นมีตัวอย่างแบบสถาปัตยกรรมที่ดีที่สุดจากกรีซ โรมและอีจิปต์.
ส่วนหนึ่งของแบบจำลอง Villa Adriana เห็นแนวเสาเรียงรายใต้หลังคา เป็นอาร์เขตรอบพื้นที่เขียวสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ มีสระน้ำสี่เหลี่ยมผืนผ้าตรงกลางพื้นที่ อาคารแบบศาลาเปิดทรงกลมสองข้าง. ภาพถ่ายของ Till Niermann, 6 October 2007. https://creativecommons.org/licenses/by-sa/3.0, via Wikimedia Commons.
เสาคอลัมภ์แบบไอออนิคที่พระราชวัง Grand Trianon [กร็อง ทรีอานง]
(Versailles, France)
เสารอบๆ The Cloister ที่โบสถ์เมือง Salisbury (UK)

เสาต้นไม้จัดและตัดเป็นคอลัมภ์เรียงรายอยู่ภายในสวนที่ปราสาท Alcázar [อัลก๊าธาร] เมือง Córdoba [ก๊อรโดบา] (ประเทศสเปน). บางส่วน มีต้นไม้ที่ตัดเป็นทรงพุ่มเกือบกลมเรียงเป็นแถว. การเนรมิตสวนของสเปนได้อิทธิพลจากวัฒนธรรมอาหรับ (เพราะชาวอาหรับไปตั้งรกรากในคาบสมุทรไอบีเรียตั้งแต่ศตวรรษที่8). สวนแบบสเปนมีรูปปั้นน้อยกว่าสวนฝรั่งเศสหรือสวนอิตาเลียน. ทำให้คิดว่าอาจสืบเนื่องกับการที่อิสลามห้ามแสดงภาพของบุคคลหรือสิ่งมีชีวิต. รูปปั้นที่มีเพิ่งแทรกเพิ่มเข้าไปในภายหลัง เมื่อสเปนประกาศให้ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติตั้งแต่ปี1478 หลังจากนั้นเริ่มมีรูปปั้นกษัตริย์คาธอลิก แทรกเข้าในงานศิลปะทุกรูปแบบในสเปน.

ต้น plane tree ที่สวนนี้ ลำต้นเกลี้ยงเหมือนเสา ปลูกเรียงบนทางเดิน. ภาพนี้ถ่ายต้นฤดูหนาว ไร้ใบ ยิ่งทำให้เห็นความงามของต้นไม้ ที่เขาจัดกิ่งเลี้ยงให้แผ่ออกตอนบน เมื่อใบไม้ขึ้นเต็มในฤดูร้อน จะเป็นซุ้มที่เขียวสวยและร่มรื่น. ภาพจากสวน De Tuinen van Appeltern (The Netherlands) เขาเจาะจงไว้ว่าเป็นอุทยานเกี่ยวกับสวนและแบบสวนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนเธอแลนด์.
ต้นปาล์มลำต้นเกลี้ยงสูงตรง ยิ่งปลูกเรียงกันไปดังในภาพ มองเป็นแนวเสาเรียงกันไปได้เช่นกัน. ภาพจากสวนแห่งชาติที่กรุงอาเธนส์ ประเทศกรีซ. ภาพจากเพจ 123rf.com

Column หมายถึงเสาหินสูง เป็นองค์ประกอบหนึ่งของสถาปัตยกรรมกรีกโรมัน มาจากคำละติน columna แปลว่า เสา. ในบริบทของสวน เป็นเสาหินหนึ่งหรือสองสามต้นตั้งประดับสวน เป็นองค์ประกอบหนึ่งของสวนภูมิทัศน์. บางทีบนยอดเสาตั้งรูปปั้นหรือประติมากรรมเพื่อเป็นอนุสรณ์อะไรอย่างหนึ่ง. เสาคอลัมน์ที่สูงๆ จะตั้งให้ห่างไกลจากอาคารใหญ่ นิยมกันมากตั้งแต่ศตวรรษที่18. ในภูมิสถาปัตย์ของเมืองโดยเฉพาะเมืองหลวง มีเสาแบบนี้ตั้งเด่นกลางจัตุรัสใหญ่ของเมือง เช่นเสาคอลัมน์ที่มีรูปปั้นนโปเลียนที่ Place Vendôme[ปล๊าซ ว็องโดม] ในปารีส หรือเสาเนลสันที่ Trafalgar Square ในลอนดอน.
   ในบริบทของสวน อาจนำเสาคอลัมภ์ไปตั้งไว้ไกลออกไปในพื้นที่ ให้เป็นสิ่งดึงดูดสายตา แล้วทำทางเดินนำไปสู่ที่นั่น อาจมีรูปปั้นครึ่งตัวตั้งบนเสา แจกันหินหรือของตกแต่งอื่นๆ.

ภาพจากพระราชอุทยาน Blenheim[เบล็นเน็ม] เสาคอลัมน์ขนาดเล็กและไม่สูงมาก ประดับอยู่ในบริเวณสระน้ำใหญ่ หรือตั้งคู่กันสองข้างทางขึ้นลงสี่ห้าขั้นเช่นในภาพข้างบนนี้. มีรูปปั้นนักรบพร้อมโล่และดาบในมือบนฐานสี่เหลี่ยม(ภาพคลาซสิกที่สื่อความกล้าหาญ). บนเสาหนึ่งเป็นเทพติดปีก มีพวงมาลัยในมือเหมือนจะโปรยลงมาให้แก่ผู้มอง. เทวดาโปรยมาลัยสื่อนัยของการชื่นชมสรรเสริญเช่นไปรบศึกชนะกลับมา. ยังมีเสาอื่นๆขนาดเท่านี้ ในบริเวณอุทยาน Blenheim.
   พระราชวังนี้ พระราชินีแอน (Queen Anne, 1665-1714) ทรงให้สร้าง (ระหว่างปี 1705-1722) เพื่อเป็นของขวัญแก่ John Churchill (ผู้ได้รับยศฐาบันดาศักดิ์เป็น Duke of Marlborough คนแรก) หลังจากที่เขามีชัยชนะเหนือกองทัพของพระเจ้าหลุยส์ที่14 ที่เมือง Blindheim (ชื่อหมู่บ้านเล็กๆบนฝั่งแม่น้ำดานูบที่มาเป็นชื่อ Blenheim และออกเสียงแบบอังกฤษว่า[เบลฺเน็ม]. ผู้สนใจหาอ่านรายละเอียดสงครามนี้ได้ในเน็ต) ในฐานะที่เขาเป็นผู้บัญชาการทหารหัวหน้าฝ่ายพันธมิตรในสงครามสืบราชสมบัติสเปน (War of the Spanish Succession, 1704-14) เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ปี1704.
    Sir Winston Churchill เกิดที่พระราชวังนี้ และได้สืบยศขุนนางเป็น Duke of Marlborough คนที่เจ็ดโดยกำเนิดตามกฎมลเฑียรบาลอังกฤษ. เชอชิลล์ได้พิสูจน์ตัวเองว่ามีเลือดนักรบเช่นกันในสงครามโลกครั้งที่สอง.
เสาอนุสรณ์แห่งชัยชนะแด่ Duke of Marlborough คนแรก บนยอดเสามีรูปปั้นตะกั่วของท่านดยุ๊ค ในเครื่องแบบขุนพลโรมันตามค่านิยมสมัยนั้น(ใครเก่งก็เทียบกับจักรพรรดิหรือขุนพลโรมันเป็นต้น). เสาสูง134 ฟุต.
ภาพจากอุทยานภูมิทัศน์ Stowe (Buckinghamshire, UK) เสาแบบดอริค อนุสรณ์แด่ Captain Thomas Grenville สร้างขึ้นในปี1747-8 ผู้ถึงแก่กรรมในระหว่างการปะทะกับเรือฝรั่งเศสเมื่อวันที่3 พฤษภาคมปี1747. คอลัมภ์นี้ประดับด้วยหัวเรือสามตอนเพื่อโยงไปถึงการรบทางทะเล. บนยอดเสามีรูปปั้นหินจำหลักของ Clio เทพธิดากรีก-โรมันทางประวัติศาสตร์ มือถือกระดาษม้วนที่จารึกคำพูดละตินว่า Non nisi grandia canto (ความหมายว่า ฉันร้องเพลงสรรเสริญวีรกรรมของผู้กล้าหาญเท่านั้น).
บนยอดเสาคอลัมภ์นี้ ประดับด้วยรูปปั้นวีนัส จาก Wilton House เจาะจงไว้ว่าเป็นบ้านชนบทสไตล์อังกฤษที่มีขนาดใหญ่ (English country house) อยู่ใกล้เมือง Salisbury (ใน Wiltshire, UK) เมื่อเทียบขนาดกับอาคารที่เป็นศาลาพักร้อนข้างหลัง เห็นชัดเจนว่า อาคารเล็กนิดเดียว ภายในมีที่นั่งสำหรับสามสี่คนเท่านั้น.   

Compartiment  เป็นคำฝรั่งเศส หรือ compartment ในภาษาอังกฤษ. มาจากคำอิตาเลียนว่า compartimento หมายถึงการจัดแบ่งพื้นที่เป็นส่วนๆ มีรั้วกั้นอย่างเป็นกิจจะลักษณะ เหมือนการแบ่งพื้นที่บ้านกั้นเป็นห้องๆ. คำนี้เช่นกันใช้หมายถึงการแบ่งกั้นพื้นที่ภายในรถไฟแต่ละตู้ เป็นส่วนสัดขนาดเล็กสำหรับคนนั่งห้าหกคน. ในบริบทของสวนคือการจัดแบ่งแปลงดินเป็นห้องๆหรือช่องๆ (ดูที่คำ room). ปกติใช้ต้นบ๊อกส์ (box สกุล Buxus) ปลูกติดๆกันไป ตัดต้นและกิ่งให้เตี้ยๆ เรียบเสมอกันไปโดยตลอด ให้เหมือนกำแพงเตี้ยๆแบ่งแปลงที่ดินออกเป็นแปลงๆสำหรับปลูกดอกไม้ พืชผักเป็นต้น. คำนี้ใช้อธิบายการแบ่งแปลงดินเป็นช่องๆ เพื่อประกอบกันเป็นลวดลายของ parterre ด้วย.
ภาพจากอุทยาน Sissinghurst (UK) ที่นั่นแบ่งสวนเป็นพื้นที่สี่หลี่ยมก็มี เป็นวงกลมก็มี. กั้นเป็นสัดส่วน มีทั้งกำแพงอิฐและกำแพงต้นไม้ที่ตัดเรียบเสมอกัน.
ภาพจากปราสาท Frederiksborg Slot (Denmark) เขาแบ่งส่วนๆตรงเพะราวกับลากด้วยไม้ฉาก เป็นแปลงปลูกไม้ผล มีแปลงแอปเปิลด้วยแน่นอน.
ภาพจากสวนพฤกษศาสตร์ที่เมือง Ansbach (Germany) ที่นั่นเช่นกัน การแบ่งสัดส่วนละเอียดตรงเพะลงถึงเซ็นติเมตร. วันนั้นเจ้าหน้าที่กำลังปรับดินเพื่อเตรียมปลูกไม้ดอกฤดูร้อน.
ลวดลายของสวนปาร์แตร์ (parterre) ที่ปราสาท Schleissheim (เยอรมนี). แน่นอนต้องมีแบบที่กำหนดไว้แล้ว จึงจัดแบ่งส่วนๆของพื้นที่เพื่อปลูกให้เป็นไปตามลายที่ตั้งใจ สีขาวๆนวลๆเป็นพื้นทรายหรือกรวดขนาดเล็กมาก พื้นสีขาวๆจึงเหมือนสีพื้นของผ้า แล้วปักนูนด้วยสีเขียวแกมสีแดงในบางส่วน. ยังมีสนามหญ้าสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีเขียวขลิบสีแดง.
ภาพจากพระราชอุทยาน Frederiksborg Slot (Denmark) แปลนสวนจัดตรงตามแบบแผนในยุคบาร็อค. สวนบล็อกที่เห็นนี้เหมือนผ้าสี่เหลี่ยมจัตุรัสผืนใหญ่พื้นสีเทาอ่อนๆ(พื้นสวนปูด้วยทราย) ปักนูนด้วยสีเขียวยกขึ้นหนาพอสมควรจากพื้น ลายแน่นมั่นคง โรยทรายสีแดงๆเป็นหย่อมๆ. แนวต้นไม้เตี้ยๆแน่นและหนา ประกอบขึ้นเป็นสัญลักษณ์ของราชตระกูล มีมงกุฎและอักษรย่อพระเจ้า Frederick IV, Christian VI, Frederick V และ Margrethe II. สวนปาร์แตร์ดังภาพข้างบนมีสี่แปลงของสี่กษัตริย์ รวมกันเป็นด้านหน้าและศูนย์กลางของพระราชอุทยาน ตรงกับอาคารพระราชวังใหญ่ณฝั่งน้ำตรงข้าม. ผู้สนใจจึงอาจลงเรือจากท่าใดมาขึ้นตรงท่าพระราชอุทยานเลย และมีทางเดินด้านข้างของสวนเข้าไปในอาคารพระราชวังหรือออกไปถึงประตูทางเข้าออกสำหรับสาธารณชนด้วยเช่นกัน.
   หลังจากเกิดอัคคีภัยในปี1859 พระราชวังทั้งหลายเสียหายมาก เมื่อการบูรณะซ่อมแซมตามแผนผังเดิมเสร็จลุล่วงลงในปี1880 ต่อมาก็พิจารณาการปลูกและเปลี่ยนผังอุทยานให้เป็นสวนแบบเรขาคณิตอย่างสมบูรณ์ที่สุด (ตั้งแต่ปี 1993 จนถึงปี 1996). อุทยานที่นั่นกลายเป็นสวนบาร็อคที่งามวิเศษสุดในยุโรปและในภาคเหนือของยุโรป. ปัจจุบันอาคารพระราชวังได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ (Museum of National History) เปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปี (ยกเว้นวันหยุดที่กำหนดไว้เช่นวันคริสต์มาส).  

Compost  หมักปุ๋ยหรือปุ๋ยหมัก. มูลฝอยสัตว์นำมาใช้เป็นปุ๋ยได้ ในสวนขนาดใหญ่ มักมีพื้นที่บริเวณท้ายสวนหย่อมหนึ่ง จัดให้เป็นบริเวณทำปุ๋ยหมัก มีป้ายอธิบายกระบวนการทำตั้งแต่การเลือกใช้ภาชนะหรือถัง การรวบรวมพืชผัก กิ่งไม้ใบไม้ เปลือกต้นไม้ฯลฯ. อง์ประกอบที่นำมาทำปุ๋ย ถูกวางทับถมกันเป็นชั้นๆ ต้องรู้ว่าอะไรควรอยู่ล่างสุดเรื่อยขึ้นมาถึงชั้นบนสุด และขั้นตอนการทำแต่ละขั้น เวลาที่จำเป็นในการทำแต่ละขั้นตอน จนถึงประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยชีวเคมีแทนปุ๋ยเคมี. บริเวณหมักปุ๋ยก็เป็นที่เด็กๆต้องไปดูและเรียนรู้ รวมทั้งลงมือทำเองในสวนของโรงเรียนเป็นต้น. ในประเทศอังกฤษ ครูพานักเรียนชั้นประถมไปเรียนในสวน ให้ไปสังเกตและเรียนรู้โดยตรงจากธรรมชาติ แล้วกลับไปปฏิบัติจริงที่โรงเรียนหรือที่บ้านของแต่ละคน. การหมักปุ๋ยเป็นการบ้านอย่างหนึ่งของนักเรียน ทำจากเศษอาหาร ใบไม้ผลไม้แห้งหรือเน่า ในบ้านของแต่ละคน.
(เรื่องนี้คนไทยรู้ดีอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เก้าทรงสอนให้ทำในโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ)
บริเวณหนึ่งใน Quiet Waters Park, Anne Arundel County (Maryland, USA) ที่จัดเป็นพื้นที่สาธิตการทำปุ๋ยหมัก ด้วยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนี้ ภาพและรายละเอียดจากลิงค์นี้.
พื้นที่สำหรับทำปุ๋ยหมัก ลังบรรจุแบบและขนาดต่างๆ มีคำอธิบายทุกขั้นตอนติดไว้ เป็นศูนย์สาธิตเช่นกัน ในสวน Griffith Park, Los Feliz (California, USA). ภาพและข้อมูลรายละเอียดได้จากลิงค์นี้.

ลังบรรจุเศษไม้ หญ้า เปลือกไม้ฯลฯ ที่นำมาหมัก ลังเปิดหรือปิดแล้วแต่สภาพอากาศของท้องที่และพื้นที่. ภาพและรายละเอียดจาก Fine Gardening Magazine.  

Concrete คำคอนกรีตมาจากคำละติน concretus ที่แปลว่า ประกอบหรือผสมเข้าด้วยกัน. ชาวโรมันเริ่มทำก้อนคอนกรีตขึ้นใช้ด้วยการผสม pozzalana (เป็นเถ้าปูนจากภูเขาไฟชนิดหนึ่ง พบมากในแถบจังหวัดเนเปิลในอิตาลี) กับปูนขาว(lime). การใช้คอนกรีตในสังคมสมัยใหม่เริ่มขึ้นด้วยการนำมาทำกระถางดอกไม้ก่อนสิ่งอื่นใด.

Conservative wall เป็นกำแพงหินที่มีอาคารเรือนกระจกสร้างประกบติดตามแนวยาวของกำแพง จึงกลายเป็นอาคารที่มีด้านยาวมากกว่าด้านกว้าง  ใช้เป็นเรือนเพาะชำและเก็บรักษาต้นไม้พันธุ์เปราะบาง หรือต้นไม้เมืองร้อนในระหว่างฤดูหนาว เป็นต้น. 

สองภาพนี้จากอุทยานปราสาท Chatsworth (Derbyshire, UK) เรือนกระจกด้านหนึ่งติดกำแพง เนื่องจากพื้นที่ลาดเอียง จึงเนรมิตเป็นอาคารต่างระดับอย่างสวยงาม. 
---------------------------------------
C-8 >> Conservatory.
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/02/c-8-conservatory.html
เมนูหนังสือ ประมวลความรู้จากศัพท์อุทยานศิลป์
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/06/mygardenbook-menu.html

Comments