R-2-Roof garden

Roman ruin หรือ Ruins คือซากปรักหักพังของโบราณสถานแบบคลาซสิก  ไม่ว่าเป็นซากอาคารจริง หรือที่เจาะจงเนรมิตให้เหมือน เป็นสิ่งประดับสวนที่นิยมกันในยุโรป โดยเฉพาะเมื่อเกิดกระแสโรแมนติกนิยม (ดูที่คำ Romatic ข้างล่างนี้)
    สถาปนิกสวนเนรมิตซากอาคารเข้าในภูมิประเทศหนึ่ง เขาสร้างภูมิทัศน์ขึ้นใหม่ในแบบเดียวกับที่ Claude Lorrain (จิตรกรฝรั่งเศส, 1600-1682) หรือ Nicolas Poussin (จิตรกรฝรั่งเศส, 1594-1665) สร้างจิตรกรรมภูมิทัศน์อันตระการตาจากจินตนาการของพวกเขา. อาคารสถาปัตยกรรมที่สร้างประดับสวนนั้น อาจเป็นแบบวิหารกรีก แบบอารามโรมันเนสก์หรือโบสถ์กอติค แบบตำหนักหรือวังเก่าเป็นต้น. ซากสถาปัตยกรรมเป็นจุดเด่นดึงสายตา ล่อใจให้คนเดินไปดูถึงสุดทาง. ล่อให้เกิดความรู้สึกว่า เดินไปอย่างมีจุดหมายปลายทาง เหมือนสร้างความมั่นใจว่าชีวิตไม่ไร้ความหมายเลยทีเดียว. 
   พึงทราบว่าการสร้างเส้นทางเดินเล่นภายในสวน มิได้หมายถึงการปราบทางให้เดินสะดวกเท่านั้น แต่รวมถึงการปลูกต้นไม้ขนาบสองข้างทางเดิน ถ้าต้องการให้ทางนั้นเป็นเหมือนถนนใหญ่ เส้นทางเดินอาจเป็นเนินหญ้ากว้างที่มองเห็นซากอาคารอยู่ลิบๆก็ได้. สิ่งดึงดูดสายตา อาจเป็นอาคารแบบใดแบบหนึ่งรวมทั้งซากปรักหักพังดังที่กล่าวมา หรือเป็นประติมากรรมแบบใดแบบหนึ่งก็ได้. และเมื่อเดินไปถึงสุดเส้นทาง ก็พบมุมมองใหม่จากจุดนั้น เห็นทิวทัศน์อื่นในสวนหรือนอกสวนได้ด้วยเช่นกัน. 
    ความงามสง่าของแบบสถาปัตยกรรมแม้เหลือเพียงซาก โยงไปถึงความหมายของการสืบทอด การต่อเนื่องของกาลเวลา ความเป็นผู้ดีเก่า ความขลัง ศรัทธา ความเศร้าสะเทือนใจ และในที่สุดเตือนให้ระลึกถึงความไม่ยั่งยืนของสรรพสิ่ง ยังอาจนับเป็นความพยายามในการอนุรักษ์อดีตอันรุ่งโรจน์ไว้เป็นต้น. อาคารที่เจตนาสร้างทิ้งไว้ครึ่งๆกลางๆ เหมือนจะย้ำว่าความคิดของคนอาจสะดุดชะงักหรือแปรเปลี่ยนไปกับกาลเวลา. อารมณ์สะเทือนในแบบต่างๆ ถือกันว่าเป็นอารมณ์สุนทรีย์และมีส่วนปลูกฝังจิตสำนึกของคนไปในแง่ดี. นี่เป็นความคิดเบื้องหลังการเนรมิตเส้นทางเดินในสวนขนาดใหญ่ๆ.  
ตัวอย่างของหมู่ซากปรักหักพังแบบโรมันที่พระราชอุทยาน Schönbrunn เป็นงานออกแบบปี1778 ของสถาปนิก Johann Ferdinand Hetzendorf von Hohenberg. หมู่อาคารนี้แทรกเข้าในภูมิประเทศรอบข้างได้อย่างเหมาะเจาะ รับกับสถาปัตยกรรมน้ำพุที่มีเสาโอเบลิซก์ประดับ. รูปปั้นสัญลักษณ์ของแม่น้ำ Danube กับแม่น้ำ Enns ที่ไหลผ่านออสเตรีย. แม่น้ำดานูปเป็นแม่น้ำที่ยาวเป็นที่สองในยุโรป ยาวประมาณ 2,850 กิโลเมตร ส่วนแม่น้ำ Enns เป็นแควสายหนึ่งของแม่น้ำดานูปยาวประมาณ 254 กิโลเมตรไหลผ่านภาคเหนือของออสเตรียสถาปนิกมีความประสงค์ให้สถาปัตยกรรมทั้งหมดนี้ โยงไปถึงความมั่นคงและความยั่งยืนของศิลปะในอดีต พร้อมๆกับให้เป็นสิ่งเตือนมรณานุสติ.

ภาพซากปราสาทที่สร้างประดับพระราชอุทยาน Schönbrunn กรุงเวียนนา ออสเตรีย. รูปปั้นชายหญิงในท่าเทน้ำลงในสระ หมายถึงแม่น้ำ Danube กับแม่น้ำ Enns ที่ไหลผ่านออสเตรีย.
ส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรม สร้างให้เป็นซากปรักหักพัง ที่อุทยาน Eremitage
เมือง Bayreuth เยอรมนี.

Romantic โรแมนติก คือสภาพจิตที่หวั่นไหวภายใต้อารมณ์ความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์รัก โกรธ หลง เศร้า โศกสลด วิตก กังวล หวาดกลัว ฯลฯ. อารมณ์ทั้งหลายเหล่านี้ มีผลสะเทือนจิตสำนึกของคน กระตุ้นให้มีปฏิกิริยาตอบโต้หรือไม่ก็ได้ ในด้านบวกหรือลบก็ได้. โรแมนติกในความเข้าใจของหนุ่มสาวมักโยงไปถึงความรักใคร่เท่านั้น ซึ่งเป็นเพียงอารมณ์หนึ่งในอารมณ์มากมายของธรรมชาติมนุษย์.
    คำนี้ใช้มาแล้วตั้งแต่สมัยกลาง ใช้เรียกภาษาฝรั่งเศสเก่าที่เป็นภาษาพื้นบ้านที่ใช้กันแพร่หลายในยุคนั้น เรียกว่า la langue romane (ในภาษาอังกฤษใช้คำ romance language) เพื่อเทียบและแยกออกจากภาษาละตินที่เป็นภาษาปราชญ์และที่ใช้กันมาก่อนภาษาฝรั่งเศสเก่านี้. ภาษาฝรั่งเศสดั้งเดิมนี้มาจากภาษาละตินพื้นบ้าน (คือจาก latin populaire ตรงกับคำละตินว่า romanice แปลว่าตามแบบอย่างของชาวโรมัน). วรรณกรรมฝรั่งเศสยุคกลางใช้ภาษาฝรั่งเศสเก่า เล่าการผจญภัยแบบต่างๆของอัศวินที่เร้าใจคนฟังและคนอ่าน. พึงเข้าใจว่าในระบบอัศวินนั้น อัศวินแต่ละคนมีนางในดวงใจผู้เป็นที่รัก  เป็นนางที่สูงส่ง. นางเป็นเสมือนผู้ขับเคลื่อนอัศวินให้เป็นนักสู้ ให้เป็นคนดีมีศีลธรรม. ดังนั้นอัศวินไปผจญภัยหรือไปรบชนะมา ก็นำของกำนัลมาฝากนางผู้เป็นที่รัก ด้วยความหวังว่าวันหนึ่งเขาจะเอาชนะใจนางได้. ความผูกพันแบบนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของระบบอัศวิน. อุดมการณ์เกี่ยวกับนางผู้เป็นที่รักและบูชาดังกล่าว ได้กลายเป็นความหมายเด่นเหนือความหมายปลีกย่อยอื่นๆของคำว่า โรแมนติกหรือโรแมนซ์”. 
    ในบริบทของการเนรมิตสวน คำโรแมนติกใช้สื่อลักษณะที่ตรงข้ามกับความเป็นคลาซสิกที่เน้นความงามสมดุล ความเป็นระเบียบแบบแผนเป็นต้น. Nicholas Pevsner ให้ความเห็นว่า ความไม่สม่ำเสมอหรือความไม่เป็นแบบเป็นแผนของสวนแบบอังกฤษในต้นศตวรรษที่18นั้น เหมือนลมหายใจระทวยของกระแสโรแมนติกนิยม ที่เริ่มขึ้นในศิลปะยุโรป. นักประวัติศาสตร์ศิลป์คนอื่นๆถือว่าศตวรรษที่18 ในอังกฤษทั้งศตวรรษ เป็นยุคแนวหน้าของกระแสโรแมนติกนิยมที่กระชับเป็นอุดมการณ์และรูปลักษณ์เต็มที่ในศตวรรษที่19. อาคารซากปรักหักพัง มีความหมายลึกซึ้งกว่าอาคารใหม่ๆ เพราะซากปรักหักพังนั้น กระทบจิตสำนึกและทีท่าของผู้ดูมากกว่า กระตุ้นมโนสำนึกเกี่ยวกับกาลเวลาที่หมุนเวียนไป ความเปราะบางของชีวิตและวีรกรรมในสมัยก่อนๆ เพราะฉะนั้นซากปรักหักพังที่ประดับสวน จึงเป็นสิ่งโรแมนติกมาก ในมโนสำนึกของชาวตะวันตก.
    ส่วนกระแสโรแมนติกนิยม เด่นชัดขึ้นที่สุดในปลายศตวรรษที่18-19นั้น เป็นกระบวนการเคลื่อนไหวของเหล่านักเขียนและศิลปิน ผู้ผละจากกฎเกณฑ์ จากกรอบการสร้างสรรค์ที่ตกทอดมาจากยุคคลาซสิก จากกฎและกรอบที่เคยเป็น“นาย”ควบคุมศิลปินทั้งหลายมาจนถึงบัดนั้น เสียสิ้น แล้วหันไปพินิจพิเคราะห์จิตและอารมณ์สำนึกอันละเอียดอ่อน นำจินตนาการและความรู้สึกของศิลปินที่มีต่อธรรมชาติขึ้นมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลป์ไม่ว่าแบบไหน.

Rondpoint [รง-ปวง] เป็นคำฝรั่งเศสหมายถึงพื้นที่วงกลมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเกาะกลางหรือจุดบรรจบของทางหลายทางมาพบกัน. ทางที่มาพบกันตรงบริเวณวงกลมนั้น อาจมีขนาดและความสำคัญไม่เท่าเทียมกันได้. เช่นทางถนนใหญ่ที่มีต้นไม้ขนาบสองข้าง ทางเท้า ทางม้า. คำนี้ใช้หมายถึงพื้นที่วงกลมกลางเมืองก็ได้ มิใช่เฉพาะในสวนเท่านั้น เช่นที่กรุงปารีสมีบริเวณแบบนี้ ที่เป็นทางบรรจบหรือทางแยกสู่ถนนสามสี่สายหน้าสวน Luxembourg [ลุกซ็องบูรก] เป็นต้น. Rondpoint ที่มีชื่อเสียงที่สุด น่าจะเป็น Rondpoint des Champs-Elysées บนถนนสายงามของปารีส. พื้นที่วงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 164 เมตร André Le Nôtre เป็นผู้วางแปลนในปี 1670 ต่อมามีการบูรณะปรับเปลี่ยนพื้นที่ตรงนั้นเรื่อยมา. ปัจจุบันเห็นอาคารบ้านเรือนสวยงาม ที่อยู่ของบุคคลสำคัญๆ และที่ตั้งสถานที่สำคัญๆในอดีตและในปัจจุบัน.
แผนผังสนามวงกลมที่สวนคิว (Kew Garden) ในกรุงลอนดอน.
ภาพจาก Albertistvan, hu.wikipedia เมื่อ 17 October 2007.
สวนสาธารณะมุมหนึ่งในเมือง Lindau เยอรมนี สนามหญ้าวงกลมวงโต มีสระน้ำพุรูปดาวอยู่ตรงกลาง บวกแปลงดอกไม้วงกลมข้างๆพร้อมนาฬิกาแดดตรงกลางแปลง. Rondpoint สองวงนี้ จัดให้คนเดินเท่านั้น.

Roof garden การทำสวนบนหลังคามีมาตั้งแต่ยุคเรอแนสซ็องส์แล้ว แต่เรามักคิดว่าเป็นสิ่งสร้างสรรค์ในยุคปัจจุบันที่เป็นผลสืบเนื่องกับวิวัฒนาการของวัสดุและเทคนิคการก่อสร้าง เช่นมีวิธีกันน้ำรั่วไหลได้อย่างเป็นผล. สถาปนิกชื่อดังหลายคนในศตวรรษที่20 เช่น Le Corbusier [เลอ-กอร-บุซีเย] ชาวฝรั่งเศสหรือ Frank Lloyd Wright [แฟร็งค-ลอย-ไร้ท] ชาวอเมริกัน มีผลงานในการออกแบบอาคารที่หลังคาสามารถทำเป็นสวนได้. สวนบนหลังคา พบเห็นมากแห่งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมนีและสวิสเซอแลนด์. ส่วนใหญ่ในประเทศหนาวมากกว่าประเทศร้อน. อาคารประดับสวนบางแห่งก็นิยมปลูกหญ้าและพืชพันธุ์เรี่ยดินเช่นจำพวกม๊อสไว้บนหลังคา. มีการทำสถิติศึกษาและวิจัยไว้ ยืนยันกันแล้วว่า การทำสนามหญ้าบนหลังคาหรือการปลูกพืชพันธุ์บางชนิดปกคลุมหลังคาอาคาร ช่วยลดความร้อนและประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้มากทีเดียว. รวมภาพตัวอย่าง ถ่ายดาดฟ้าและหลังคาของบ้านคนในเมืองเช่น
ลานบนดาดฟ้า มุงด้วยหวาย สานขัดกันเป็นผืน สร้างห้องสวนบนหลังคา ปลูกต้นไม้ในกระถาง เป็นที่พักผ่อนยามเย็มของคนในบ้าน. ภาพจากเมืองมาราเคช- Marrakech (Morocco มอร็อคโก).

ระเบียงชั้นบนของบ้าน จัดเป็นสวนปาติโย ตกแต่งด้วยกระถางดอกไม้ เป็นมุมพักผ่อน ตามจริตมักคุ้นของชาวสเปน. สองภาพนี้จากเมือง Córdoba[ก๊อร-โดบะ] สเปน.
ถ่ายหลังคากรุงโรมจากหน้าต่างห้องที่โรงแรม เห็นดาดฟ้าของตึกที่อยู่อาศัยของชาวโรม
สีเขียวๆของต้นไม้ที่พวกเขาปลูกไว้บนดาดฟ้า
บนดาดฟ้าบ้านคนในกรุงโรม(อิตาลี) ผู้คนไม่มีพื้นที่ส่วนตัวมากนักในเมืองหลวง บ้านติดๆกันเหมือนห้องแถว หากมีมุมระเบียงและมีดาดฟ้า นับว่าโชคดี เป็นที่จัดห้องสวนได้ ดังภาพนี้. อีกไม่นาน บนดาดฟ้าก็ร่มรื่นเมื่อกิ่งไม้เลื้อยไปปกคลุมเต็มโครงเหล็ก จะได้กระโจมใบไม้เขียว อาจเป็นต้นองุ่นก็ได้.
หลังคาบ้านปลูกพืชพันธุ์หญ้าคลุมดิน ดูไม่เลว.
ภาพจากพาร์ค De Tuinen Van Appeltern เนเธอแลนด์
หลังคาตึกจัดเป็นสวน เป็นที่พักผ่อน เป็นห้องอาหารได้อย่างลงตัว
ภาพจากเมือง Fribourg สวิตเซอแลนด์

ภาพหลังคาปลูกเป็นสนามหญ้าของอาคาร School of Art, Design and Media, Nanyang University, Singapore. สนามเรียบ งามสะอาดตา  สมบูรณ์สมดุลกับสภาพแวดล้อม. เครดิตภาพ : ดวงกมล เหรียญไตรรัตน์.

Room เป็นคำที่เราคุ้นเคยในความหมายของห้อง เช่นห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว ห้องนอนในบ้านพักอาศัยของเรา. ชาวตะวันตกโดยเฉพาะชาวอังกฤษเปรียบการจัดแบ่งพื้นที่สวนเป็นห้องๆเหมือนการจัดแบ่งพื้นที่อาศัย. สวนหน้าบ้านหรือสวนหลังบ้านมีบริเวณไม่กว้างนัก ถือเป็นห้องๆหนึ่งของบ้านเหมือนกัน เป็นห้องข้างนอกที่มีความสำคัญมากในวิถีชีวิตของคนตะวันตก. ถ้าพื้นที่สวนกว้าง ก็อาจจัดเป็นหลายห้อง อาจจัดเป็นห้องสีชมพู ห้องสีฟ้า ห้องสีขาวเหมือนห้องสีต่างๆบนเรือน. ห้องสวนสีต่างๆเรียกตามสีดอกไม้ที่ปลูกในห้องนั้น เช่นห้องสีชมพูรวมต้นไม้พันธุ์เดียวหรือหลายพันธุ์ที่ให้ดอกเป็นสีชมพู. ห้องสีขาวก็รวมต้นไม้ดอกสีขาวๆทั้งหมด. นับเป็นวิธีจัดห้องสวนที่น่าสนใจแบบหนึ่ง.
พื้นที่ผืนยาวของห้องสวนตรงนี้ ปลูกดอกไม้เป็นแปลงสี่เหลี่ยม มีกำแพงโค้งปลูกต้น clematis สีม่วง. กำแพงโค้ง (exedra) เหมือนเป็นหัว ปิดพื้นที่. ไม้ดอกในพื้นที่ห้องสวนเดียวกันนี้เป็นสีออกโทนม่วงๆ. ภาพจากปราสาท Sissinghurst (Cranbrook, UK).
   การแบ่งสวนเป็นสัดส่วนที่ใหญ่กว่าขนาดห้อง เรียกว่า quarter ก็เป็นไปในทำนองเดียวกับการแบ่งห้อง เพียงแต่ขนาดใหญ่กว่าห้องเท่านั้น อาจเทียบว่าเป็นห้องโถง. ดังกล่าวแล้วว่า ชาวอังกฤษเรียกห้องสวนว่าเป็น (garden) room. ชาวฝรั่งเศสไม่ใช้คำ chambre [ฌ้อม-เบรอ] ที่ตรงกับความหมายของ room ในภาษาอังกฤษ แต่ใช้คำ salle [ซาล] แทน แม้จะแปลว่าห้อง แต่เป็นห้องขนาดใหญ่ โอ่โถงและเป็นห้องใช้ส่วนรวม เช่นห้องอ่านหนังสือ (salle de lecture). ส่วนคำ chambre หมายถึงห้องใช้เฉพาะบุคคล เช่นห้องนอน (chambre à coucher). ห้องสวนในพระราชวังแวร์ซายส์เรียกเป็น salle เช่น salle des maronniers คือห้องสวนที่ปลูกต้นเกาลัดสองข้าง. 
พื้นที่รอบอาคารที่อาศัยนั้น หากกว้างใหญ่ และเป็นหย่อมๆมิได้ต่อเป็นผืนเดียวกัน แต่ละผืนสร้างทัศนมิติแบบเรขาคณิตได้ จะเรียกเป็น bosquet [บ๊อซเก้] ที่แปลว่าป่าขนาดเล็ก มีนัยของความร่มรื่น ให้ความรู้สึกอิสระพ้นจากกรอบบังคับใดๆ. ในพระราชวังแวร์ซายส์มีป่าของเทพอพอลโล (le bosquet des bains d’Apollon). เนื้อหาของสวนส่วนนี้ สื่อนัยชีวิตที่อิสระเสรีของเทพอพอลโลในหมู่นางไม้. การเลือกใช้คำ bosquet แทนจึงเหมาะกว่าคำอื่นๆ
เมื่อดูการสร้างห้องสวนต่างๆในหลายๆประเทศ ยังต้องกลับมาอ้างแวร์ซายส์เป็นหลัก เพราะทำไว้ดีกว่าที่ใด และเพราะใช้วัสดุผู้ดี คือหินอ่อนเป็นหลัก ในขณะที่สวนอื่นๆในประเทศอื่นเปลี่ยนไปใช้วัสดุอื่นๆแทน จะเป็นหินอ่อนจำลอง หรือโลหะผสมแล้วเคลือบทอง(ซึ่งยิ่งห่างไกลจากความงามแบบคลาซสิก)
ชมตัวอย่าง“ห้องป่าเล็ก”หรือ bosquets ในพระราชอุทยานแวร์ซายส์ข้างล่างนี้
Bosquet des bains d’Apollon สร้างในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่14 ระหว่างปี1778-1781. กลุ่มรูปปั้นม้า(Chevaux du Soleil) ที่ประดับตรงนี้ คือม้าในตำนานเทพอพอลโลผู้ขับขี่รถเทียมม้าของดวงอาทิตย์ เมื่อเทพมาอาบน้ำพักผ่อน ม้าเหล่านี้ก็ได้พักด้วย. การจัดกลุ่มในห้องสวนดังแบบที่เห็นนี้ เป็นผลงานของจิตรกร Hubert Robert ในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16.
André le Nôtre ออกแบบ Bosquet des Dômes [บ๊อสเก้ เด โดมในปี 1675 (เมื่อก่อนเคยมีโดมอยู่ตรงนี้จึงเป็นที่มาของชื่อ แต่ถูกรื้อทิ้งไป) ดังที่เห็นในภาพ ห้องสวนนี้ มีระเบียงลูกกรง (balustrade) ล้อมรอบสองชั้น ระเบียงรอบนอกบอกเขตของพื้นที่ห้อง ระเบียงรอบในล้อมสระน้ำพุ รูปหกเหลี่ยม มีพานน้ำพุหินอ่อนขนาดใหญ่ตรงกลางสระ ฐานพานน้ำพุประดับด้วยปลาโลมาหลายตัวในท่าประคองพาน. น้ำพุสายสำคัญพุ่งจากจุดตรงกลางพานน้ำหินนี้. 
เสาหนาตันและลูกกรงเป็นหินอ่อนสีขาว ขอบและฐานเป็นหินอ่อนสีแดง. เสาที่เห็นตันเตี้ยๆ มีทั้งหมด 18 เสาอยู่รอบๆสระหกเหลี่ยม มีท่อน้ำพุซ่อนอยู่ภายใน และเมื่อเปิดน้ำเต็มที่ ส่งสายน้ำพุ่งลงในสระหกเหลี่ยม.

André le Nôtre ออกแบบ Bosquet des trois fontaines ในปี1677. ห้องสวนนี้ปิดไปนาน และบูรณะขึ้นใหม่ในปี 2005 ตามผังเดิมที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 คิดและหวังไว้. รวมน้ำพุสามระดับ. น้ำพุแปดเหลี่ยมตรงระดับล่าง สร้างให้สายน้ำพุ่งขึ้นและตกลงในลักษณะของกลีบดอกลิลลี (fleur de lys ตราแผ่นดินหรือตราประจำองค์พระเจ้าแผ่นดินของฝรั่งเศสในสมัยก่อน). สระน้ำสี่เหลี่ยมตรงระดับกลาง สร้างให้น้ำพุ่งเข้าหากันเป็นซุ้มโค้ง. สระน้ำพุระดับบนสุด สร้างสายน้ำพุพุ่งออกเป็นลำจากทุกมุมรวมกันทั้งหมด 140 สายทั้งหมดใช้เปลือกหอยงามๆ ประดับเป็นจำนวนมาก.

Rosarium, rosary และ rose garden สองคำแรกหมายถึงบริเวณปลูกต้นกุหลาบที่จัดเป็นพื้นที่ทรงกลม. ดอกกุหลาบที่ปลูกจะจัดให้กิ่งพันติดกับร้านไปโดยรอบ. ร้านที่พยุงต้นกุหลาบไว้นั้นส่วนใหญ่เป็นโครงเหล็กต่อกันไปเป็นวงกลมขนาดใหญ่. นายช่างสวนชาวอังกฤษชื่อ Thomas Wright ใช้คำที่สองเรียกแปลงดินทรงกลมสำหรับปลูกดอกไม้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นดอกกุหลาบ. คำที่สามคือสวนกุหลาบ ไม่จำเพาะเจาะจงว่าพื้นที่ต้องเป็นทรงกลม.

สวนกุหลาบที่สวยงามมากนอกเกาะอังกฤษก็มี
เช่นที่อุทยานปราสาท Rosenstein เมือง Stuttgart เยอรมนี

แปลงกุหลาบแปลงใหญ่ที่ Duthie Park (Aberdeen, Scotland)
สวนกุหลาบเป็นสวนที่มีรั้วปิดล้อมตามแบบแผน. รสนิยมในยุคหลังๆเปลี่ยนไปสู่การปลูกแบบอิสระ. สวนกุหลาบเป็นสวนที่มีมานานมากที่สุดสวนหนึ่งในประวัติศาสตร์สวนของอังกฤษ. อังกฤษยังคงรักษากุหลาบพันธุ์โบราณไว้ได้ พร้อมกับพัฒนาพันธุ์ใหม่ๆขึ้นทั้งขนาด สีสันและรูปลักษณ์. กุหลาบพันธุ์โบราณยังคงหาดูได้เสมอในสวนอังกฤษหลายแห่ง.
    กุหลาบเป็นดอกไม้สำคัญที่ดูจะขาดเสียมิได้ในสวนอังกฤษ ไม่ว่ายุคสมัยใด. ดอกกุหลาบมีนัยความหมายหลายอย่างที่สืบทอดมาจากต้นคริสตกาล ตั้งแต่การสื่อถึงพระแม่มารี แล้วต่อมาหมายถึงนางผู้เป็นที่รักของอัศวิน. ในประวัติศาสตร์อังกฤษ พระเจ้า Edward I ใช้กุหลาบอังกฤษ (England’s rose) เป็นตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์. ต่อมาเกิดสงครามดอกกุหลาบ (War of the Roses) ระหว่างสองราชตระกูล (York & Lancaster). ฝ่าย York มีดอกกุหลาบขาวเป็นตราประจำตระกูล และฝ่าย Lancaster มีดอกกุหลาบแดง. ไม่นานมานี้ ชาวอังกฤษยังใช้คำ England’s rose หมายถึงอดีตเจ้าหญิงไดแอนนา. สวนต่างๆที่ปลูกขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ Queen Mother ตามเมืองต่างๆในประเทศอังกฤษ เป็นสวนดอกกุหลาบทั้งสิ้น. ในยุคปัจจุบัน มีวรรณกรรมเรื่อง In the name of the Rose ของ Umberto Eco. ดอกกุหลาบดูเหมือนจะยังคงเป็นราชินีแห่งดอกไม้ไปอีกนาน.
    หนังสือที่มีส่วนสร้างจินตนาการเกี่ยวกับสวนและบทบาทหน้าที่ของสวนที่สำคัญยิ่งคือเรื่อง Roman de la Rose (หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่า The Romance of the Rose) เป็นกวีนิพนธ์เขียนด้วยภาษาฝรั่งเศสเก่า(ยุคกลาง) เสนอบทเพลงแห่งความฝันเชิงอุปมาอุปมัยเกี่ยวกับความรักตามขนบยุคกลาง. เริ่มแต่งในราวปี1237 ประกอบด้วยโคลง 22,000 บรรทัด มีเสียงลงท้ายที่สัมผัสกันเป็นคู่ๆ. มีการคัดลอกวรรณกรรมเล่มนี้เรื่อยมาและที่ตกทอดมาถึงปัจจุบัน ยังมีอยู่อีก300 ฉบับ. แสดงให้เห็นว่าเป็นที่นิยมกันมากและต่อเนื่องเพียงใด.
Guillaume de Lorris เป็นผู้แต่งโคลง 4000 บันทัดแรก. เนื้อหาตอนแรกนี้ พรรณนาถึงความรักของกวีต่อสตรีสาวนางหนึ่ง. สตรีนี้กวีเห็นในความฝันและปรากฏเป็นภาพดอกกุหลาบตูมในสวนหลวงแห่งหนึ่ง. กวีพรรณนาความหวังและความผิดหวังที่เขารู้สึกเรื่อยมา ความเศร้าเสียใจที่มิเคยได้นางสมใจปรารถนาของเขา. บทพร่ำรำพันเป็นอุปมาอุปมัย โยงไปถึงภาพของสวนที่ถูกปิดล้อมทุกด้าน พ้นสายตาคนอื่นๆ. กวียังใช้ดอกกุหลาบ การปลูก การตัดดอกกุหลาบเป็นสื่อบอกความในใจ. โคลงที่เหลือนั้นเป็นบทประพันธ์ของ Jean de Meun (c.1240-1305) ในยุคหลัง เรียบเรียงด้วยวิญญาณกวีที่แตกต่างกันมาก. เขาดำเนินเนื้อเรื่องต่อก็จริง แต่ใช้บทกวีแจกแจงสภาพชีวิตและค่านิยมของสังคมยุคกลางเชิงเสียดสีล้อเลียน. อย่างไรก็ดี วรรณกรรมนี้เป็นที่นิยมกันมากทั้งในฝรั่งเศสและอังกฤษ. หนึ่งศตวรรษต่อมา Geoffrey Chaucer (1340-1400) กวีอังกฤษแปลเป็นภาษาอังกฤษยุคกลาง แต่ทำไปได้เพียงหนึ่งในสามของจำนวนโคลงทั้งหมดเท่านั้น.  

Root house เป็นอาคารในสวนแบบหนึ่งที่สร้างขึ้นจากส่วนต่างๆของต้นไม้ เช่นราก ลำต้น ตอ กิ่ง ใบไม้. อาจมาจากต้นไม้ชนิดเดียวกันหรือไม่ก็ได้. เป็นแนวคิดในการใช้ต้นไม้ใหญ่ๆที่ตายแล้วให้เป็นประโยชน์ สร้างความใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น. ตั้งแต่เริ่มแรกของการตั้งถิ่นฐาน มนุษย์ได้อาศัยต้นไม้ใหญ่ๆเป็นที่อยู่โดยตรง แล้วจึงโค่นมาสร้างที่อยู่ในแบบต่างๆเรื่อยมาจนทุกวันนี้. 

Rotunda มาจากคำละตินว่า rotundus แปลว่า กลม โดยมีคำ rotunda เป็นคำคู่เพศหญิง. ภาษาอิตาเลียนนำไปใช้หมายถึงอาคารทรงกลม หลังคาเป็นโดม มีเสาโดยรอบ เปิดโล่ง ตรงกลางใต้โดมมีรูปปั้นหินอ่อน อาจเป็นงานศิลป์ฝีมือเยี่ยมของประติมากรชื่อดัง ตั้งประดับเด่นดึงดูดสายตา. โดยทั่วไปนิยมให้เป็นรูปปั้นของวีนัส ของไดแอนนา หรือของเทพคิวปิดเป็นต้น. ในปัจจุบันเพื่ออนุรักษ์รูปปั้นสวยงามนั้นให้พ้นอิทธิพลของลมฟ้าอากาศ รูปปั้นจึงถูกนำเข้าไปเก็บภายในอาคารใหญ่ในวังของสวนนั้น หรือไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของเมืองนั้นแทน. สวนบางแห่งหล่อรูปปั้นสร้างจำลองแล้วนำไปวางแทน. ส่วนใหญ่ไม่ทิ้งให้โล่งไว้.
Venustempel ตามที่เขากำกับไว้ที่อุทยาน Schloss Linderhof (Ettal, Germany). เป็นอาคารกลมแบบ rotunda ดังคำอธิบายข้างต้น. การใช้คำว่า วิหารหรือ temple (ภาษาอังกฤษ) หรือ tempel (ภาษาเยอรมัน) ต้องการเน้นนัยโยงไปถึงเทพหรือเทวีในตำนานโรมัน ส่วนคำ rotunda เป็นคำกำกับรูปแบบสถาปัตยกรรมทรงกลม.
วิหารวีนัส (Venustempel) อาคารทรงกลมแบบ rotunda
ที่อุทยาน Dessau-Wörlitz เยอรมนี
วิหารรักกับรูปปั้นเทวีวีนัส หรือ Temple de l’Amour ที่วิลลาเอฟรุสซี่-Villa Ephrussi de Rothschild (Saint-Jean-Cap-Ferrat, France) มีทิวทัศน์สวยงามหลายมุม ทั้งยังมีภัตตาคาร คนนิยมไปเช่าสถานที่จัดงานเลี้ยงงานฉลองต่างๆ. นอกจากนี้ มีงานเทศกาลดอกกุหลาบและต้นไม้ประจำทุกปีอีกด้วย.

อาคารทรงกลมมีเสาล้อมรอบ แต่มีผนังกำแพงปิดล้อมพื้นที่ตรงกลางใต้โดมก็มีเช่นกัน มักสร้างเลียนแบบ Temple of Vesta ที่ Tivoli ที่สร้างอุทิศให้แก่เทวี Vesta. อาคารทรงกลมที่ปิด มักเป็นอนุสรณ์สถานแด่บุคคลสำคัญผู้เสียชีวิตไปแล้ว. ในกรณีดังกล่าวอาจเรียกเป็น mausoleum [มอเซอลี้-เอิม]แทน. 
ซากวิหารเวสต้า(Vesta เทพธิดาโรมัน ผู้ปกป้องเตาไฟในเรือน) ที่เหลือให้เห็นในปัจจุบันที่เมือง Tivoli อิตาลี. เจ้าของภาพกำกับว่า CC BY-SA 4.0, from Wikimedia Commons.
อาคารทรงกลมพื้นที่ใต้โดมปิด มีประตูเข้าออกบานเดียว ที่อุทยานภูมิทัศน์ Stowe (Buckinghamshire, UK) ที่นั่นเรียกว่า Temple of Ancient Virtues. Kent เป็นผู้ออกแบบอาคาร. สร้างขึ้นในปี 1737 (อาคารแบบนี้เรียกว่า Tholos ก็ได้). ที่ Stowe เป็นอาคารทรงกลม มีหลังคาเป็นรูปโดม มีเสาคอลัมภ์รอบๆอาคาร 16 ต้น อาคารตั้งบนพื้นที่ที่ยกสูงขึ้น (plinth). ภายในมีรูปปั้นทั้งตัวขนาดเท่าคนจริงสี่รูป จำลองรูปลักษณ์เหมือนสี่บุคคลที่ได้รับการยกย่อง(ที่นั่น) ว่าเป็นบุคคลที่มีคุณธรรม จำหลักชื่อและอาชีพหรือคุณงามความดีของบุคคลทั้งสี่ไว้ด้วย อันมี Epaminondas (แขนงทั่วไป general), Lycurgus (สมาชิกสภานิติบัญญัต-lawmaker), Homer (กวี-poet) และ Socrates (นักปราชญ์-philosopher). รูปปั้นที่มีที่นั่นในปัจจุบันเป็นก็อปปี้ของรูปปั้นผลงานจริงของ Peter Scheemakers ที่ถูกขายไปแล้วในปี 1921.
เป็นอาคารทรงกลมประดับสวนในพื้นที่แวดล้อมหลายแบบ
ภาพนี้จากอุทยาน Bergpark Wilhelmshöhe เมือง Kassel เยอรมนี.

Royal park หรือ royal gardens เดิมใช้หมายถึงสวนหลวงภายในบริเวณพระราชวังที่ประทับของพระมหากษัตริย์ เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์. ต่อมาเปิดให้ประชาชนเข้าชมหรือเข้าใช้ เป็นสวนสาธารณะ. คำนี้ยังหมายถึงสวนในตำหนักหรือวังของราชนิกูลแต่ละพระองค์ ไม่เจาะจงว่าต้องเป็นของกษัตริย์เท่านั้น. สวนหลวงใหญ่ที่เป็นพาร์คในกรุงลอนดอน ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะแล้ว (ความจริงก็เปิดให้ประชาชนเข้าได้มานานหลายศตวรรษแล้ว) เช่นสวน Richmond Park, Kensington Gardens, Hyde Park, Green Park และ Regent’s Park. พาร์คใหญ่ๆนั้นเป็นป่ามีต้นไม้หนาแน่น มีการถางป่าบางส่วน กรุยทางภายในพาร์คเพื่อการขี่ม้าล่าสัตว์เป็นสำคัญ. องค์กร Green Peace ดูเหมือนเป็นตัวตั้งตัวตีที่ต้องการให้ยกเลิกเกมส์ดังกล่าวในประเทศอังกฤษ(และทั่วไปในโลก) เพื่ออนุรักษ์สัตว์และธรรมชาติ แต่มีผู้คัดค้านและประท้วงกันมากเช่นกัน โดยอ้างว่ามันเป็นขนบของชาวอังกฤษ(ชนชั้นสูง)มาหลายศตวรรษ. การยกเลิกมีผลกระทบต่อผู้ที่ประกอบอาชีพ เช่นในวงการเลี้ยงม้า เลี้ยงหมาพันธุ์ล่าสัตว์ กับธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกหลายประเภทด้วย. สหราชอาณาจักร ได้ออกกฎหมาย Hunting Act 2004 ห้ามการล่าสัตว์ป่าด้วยการใช้สุนัขล่าสัตว์ในอังกฤษและเวลส์ สัตว์ที่ห้ามล่า คือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่น สุนัขจิ้งจอก กวาง กระต่ายป่า มิงค์. กฎหมายนี้ยังมีช่องโหว่ให้คนใช้สุนัขล่าสัตว์ได้ เช่นในกรณีให้สุนัขติดตามสัตว์ป่าที่มองไม่เห็น หรือใช้สุนัขล่าสัตว์ดมตามกลิ่นสัตว์. กฎหมายนี้ถูกนำขึ้นวิเคราะห์ พิจารณาและโหวดกันบ่อยๆอีก ครั้งสุดท้ายดูเหมือนจะเป็นเดือนพฤษภาคม 2017 และเช่นเดิม ยังคงมีผู้เห็นด้วยกับผู้คัดค้าน.

Rustic แบบชนบทหรือแบบบ้านนอก เป็นลักษณะของอาคารหรือเครื่องเรือนที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ โดยรักษาสีและรูปลักษณ์เฉพาะของวัตถุดิบนั้นไว้ให้มากที่สุด. เช่นเรือนไม้ของนักพรตในป่า ที่เรียกตามขนบตะวันตกว่า hermitage   สร้างให้เหมือนว่า นักพรตเป็นผู้สร้างขึ้นด้วยมือของเขาเอง ใช้วัตถุดิบที่หาได้จากป่ารอบข้าง เช่นเปลือกต้นไม้ ลำต้นที่ตายแล้ว กิ่งไม้ ใบคาใบจาก หรือรากไม้. ส่วนวิธีการก่อสร้างก็ทำให้คิดว่าทำขึ้นด้วยกำลังมือแท้ๆของเขา. ในศตวรรษที่ 18-19 มีหนังสือแบบบ้านชนบทตามรสนิยมของยุคสมัยนั้นหลายแบบ ทำให้เข้าใจถึงความต้องการของคนในสังคม ที่อยากเข้าใกล้ธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อได้อ่านงานประพันธ์ของ J.J. Rousseau. (นักเขียนชาวฝรั่งเศส, 1712-1778  ผู้ผละจากสังคมเข้าป่า และเขียนรำพึงรำพันเกี่ยวกับสังคมคน. การใช้ชีวิตที่สอดคล้องกับวิถีธรรมชาติ ทำให้เขาได้แง่คิดหลายอย่าง. ตัวอย่างหนังสือเรื่อง Julie ou la Nouvelle Heloïse ที่ออกมาในปี 1761).
   ลักษณะชนบทบางทีก็ไปเป็นรูปประดับอาคารแบบอื่นๆในสวน เช่นนำความตะปุ่มตะป่ำของน้ำค้างแข็ง ลายเปลือกไม้หรือไม้เนื้อหยาบ ไปประดับบนกำแพงหรือหน้าต่างของอาคารล่าสัตว์เป็นต้น.

Rustification วิธีการทำแผ่นหินหรือแถบหิน ให้มีพื้นผิวหน้าหยาบๆหรือขรุขระ เป็นกรรมวิธีสร้างพื้นที่ให้เหมือนหินผาธรรมชาติในชนบท เพื่อเน้นความแตกต่างกับลักษณะสิ่งก่อสร้างในเมือง เช่นแผ่นวัสดุก่อสร้างที่ราบเรียบเพราะตัดด้วยเครื่องจักรเครื่องกล.
---------------------------------- 
S >> Sacred grove, Salle de verdure, Sand path, Sarcophagus, Saxons, Scottish heather dell, Screen, Sculpture garden, Seat, Secret garden, Serpentine, Set, Shading, Shadow house, Sham castle, Shed, Shellwork, Shred, Shrub, Singerie, Skating pond, Slip garden, Spanish (water) garden, Sparta, Species, Specimen tree.
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/06/s-1-sculpture-garden.html
เมนูหนังสือ ประมวลความรู้จากศัพท์อุทยานศิลป์
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/06/mygardenbook-menu.html

Comments