Fabrique [ฟาบริ๊ก] เป็นคำฝรั่งเศส มาจากคำละตินว่า fabrica เป็นศัพท์ที่ใช้ในวงจิตรกรรม
และนำมาใช้เป็นศัพท์ก่อสร้างด้วยตั้งแต่ศตวรรษที่สิบสี่.
หมายถึงอาคารที่เจาะจงสร้างให้ดูเหมือนซากปรักหักพังของโบราณสถาน
เพื่อประดับสวนอุทยานขนาดใหญ่ๆ ตามค่านิยมคลาซสิก ให้เป็นมรณานุสติ.
ภาพจากพระราชอุทยาน Eremitage,
Bayreuth เยอรมนี. สร้างคร่าวๆให้เห็นเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงตึกที่ทรุดโทรมพังลงเกือบหมดแล้ว.
ภาพจากพระราชอุทาน
Schönbrunn กรุงเวียนนา
ประเทศออสเตรีย สร้างซากอา คารไว้ยิ่งใหญ่ทีเดียว.
Ferme ornée [แฟรฺ-ม ออรฺ-เน] เป็นคำฝรั่งเศส
ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า ornamental farm
เป็นฟาร์มที่สร้างสรรค์ขึ้นให้เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่เสริมภาพรวมของสวนอุทยานขนาดใหญ่. เป็นฟาร์มเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์จริง
ในขณะเดียวกันก็ปลูกไม้ประดับและสร้างกำแพงต้นไม้ให้ดูดี. คำนี้เป็นคำฝรั่งเศส แต่อังกฤษเป็นผู้พัฒนาสวนฟาร์มขึ้นก่อนฝรั่งเศสในต้นศตวรรษที่18.
แนวการสร้างสรรค์สวนพร้อมฟาร์มประดับนี้ นอกจากมีทุ่งเลี้ยงสัตว์
ทุ่งนาเพาะปลูกกันอย่างจริงจังที่ให้ผลผลิตเพียงพอแก่การบริโภคแล้ว ยังมีพื้นที่เพื่อการเล่นและการพักผ่อน
มีถนนหรือเส้นทางเดินที่เชื่อมต่อถึงกัน ตลอดเส้นทางก็มีแปลงดอกไม้หลากสีหลากพันธุ์
ต้นไม้ พุ่มไม้หรือรั้วต้นไม้ที่ตัดเรียบ มีเส้นทางทอดจากมุมหนึ่งไปสู่อีกมุมหนึ่งของพื้นที่ภายในสวนประดับ.
ตัวอย่างที่คงหาที่เทียบเคียงไม่ได้ง่ายๆในโลกณวันนี้
คืออุทยานที่ Villandry
[วิลล็องดรี] ในฝรั่งเศส ที่บูรณะขึ้นใหม่ตามแบบที่เคยมีที่นั่นในศตวรรษที่16. ที่นั่นมีสวนผัก
สวนครัว สวนสมุนไพร สวนดอกไม้ ทุกแบบกลมกลืนกันได้อย่างน่าทึ่งมาก. (ไม่มีฟาร์มเลี้ยงสัตว์). ปัจจุบันการทำฟาร์มประดับมีมากขึ้นในทุกประเทศ
เป็นวิธีการสร้างสรรค์สวนเพื่อโปรโหมดการท่องเที่ยวแบบหนึ่ง.
สองภาพนี้จากอุทยาน Villandry ประเทศฝรั่งเศส
เป็นสวนผักที่สวยงาม จัดเป็นสวนแบบแผน สีของผักหลากชนิดในแต่ละแปลงให้ภาพรวมที่สว่างสดชื่น ทั้งผักใบเขียว ผักสลัด กะหล่ำ พวกแตง หอม บวบ มะเขือ มะเขือเทศ พริกฯลฯ.
ตามมุมแปลงแต่ละแปลง ปลูกไม้ผลเช่นต้นแพร์(16 ต้น),
ต้นแอปเปิล(40 ต้น)และต้นองุ่น.
แม้จะมีไม้ผลไม่กี่ชนิด แต่ก็ล้วนให้ผลงาม.
ผักผลไม้ที่ปลูกที่นั่น ใช้บริโภคในหมู่คนสวนทั้งหมด
และยังมีเหลือสำหรับทำปุ๋ยกลับคืนสู่สวน.
ที่นั่นไม่มีโครงการขาย รายได้ของสวน มาจากการเก็บเงินเข้าชมสวนเท่านั้น.
สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับสวนที่
Villandry คลิกที่ลิงค์ต่อไปได้เลย. http://chotirosk.blogspot.com/2014/06/blog-post_19.html
สวนที่ Villandry ได้เป็นแบบอย่างให้คนรุ่นต่อๆมา
สร้างสวนครัวที่สวยงามจนเป็นการดีไซน์สวนแบบหนึ่งอย่างเต็มศักดิ์ศรี. ผู้สนใจลองดูตัวอย่างการสร้างสวนครัวจากภาพข้างล่างนี้
ภาพจาก Pinterest ที่เชื่อมไปยังเว็ปเพจนี้
Fernery คำนี้คลุมความหมายของกลุ่มต้นเฟิร์นที่ขึ้นในกลางแจ้ง
(มิใช่เฉพาะภายใน
เรือนกระจก) หรือหมายถึงบริเวณที่มีต้นเฟิร์นจำนวนมากขึ้นเจริญเติบโต. คำนี้ยังใช้เรียกเรือนกระจกที่สร้างขึ้นเพื่อปลูกและอนุรักษ์พันธุ์เฟิร์นที่นำเข้ามาจากดินแดนแถบอบอุ่นกว่า. การปลูกและสะสมเฟิร์นเป็นกิจกรรมยอดนิยมในกลางยุควิคตอเรียในประเทศอังกฤษ. ต่อมาความนิยมนี้ได้แพร่สู่ประเทศอื่นๆในโลก ในที่สุดการเพาะปลูกต้นเฟิร์นเป็นกิจกรรมสำคัญส่วนหนึ่งของสวนพฤกษศาสตร์ทั้งหลายด้วย.
ตัวอย่างของอาคารเพาะและเลี้ยงต้นเฟิร์นประเภทต่างๆ
จากสวน Mona Vale เมือง Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์.
ตัวอย่าง Fern House ที่อุทยาน Duthie Park
(เมืองAberdeen ในสก็อตแลนด์)
Finial มาจากคำละติน finis ที่แปลว่า สุด หรือจุดจบ. ในบริบทสวนหมายถึงสิ่งประดับบนยอดหลังคา, ยอดเสา, (ดูที่คำต่อไปนี้ประกอบด้วย
pinnacle, pediment, arch, column) บนเสาหลัก,
บนประตูชัยหรือประตูอาร์ค, เหนือเสาระเบียง, หรือเหนือเสาคอลัมภ์แบบต่างๆ.
สิ่งประดับนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดเสียมิได้ในสวน.
แบบที่นิยมเป็นพิเศษในยุโรป คือผลสับปะรด,
เสาโอเบลิซก์แบบอีจิปต์, หรือลูกกลมๆเป็นต้น. แจกัน โถหรือผะอบ
ขนาดใหญ่จำหลักจากหิน ก็อาจทำหน้าที่ของสิ่งประดับบนยอดได้ด้วยเช่นกัน. สิ่งประดับแบบนี้ตั้งโดดเด่นเฉพาะตัวมันตามลำพังณมุมใดในสวนก็ได้.
บนสิ่งก่อสร้างประตูอาร์คทำเป็นฉากของประติมากรรมน้ำพุ
Märchenbrunnen (Fairytale fountain) ประดับด้วยรูปปั้นสัตว์เช่นกวาง. ส่วนรูปปั้นที่ประดับบนขอบสองข้างสระน้ำ
เป็นรูปปั้นเด็กกับสัตว์เช่นกับเป็ด กระต่าย หมา แมว. ทั้งหมดเล่าเรื่องในเทพนิยายเยอรมัน. มุมสระน้ำนี้ อยู่ตรงทางเข้าด้านหนึ่ง สู่สวนสาธารณะ Volksark
Friedrichshain กรุงแบรฺลิน เยอรมนี.
รูปปั้นเทพบดี Zeus มือถือสายฟ้า เหยี่ยวยืนอยู่แทบเท้าด้านซ้าย เหนือหลังคาบนยอดหน้าบันสามเหลี่ยมของอาคารสถาปัตยกรรมกรีกโบราณ
ที่เมือง Schewrin เยอรมนี.
แจกันดอกไม้หินจำหลักตรงหัวบันไดร้อยขั้นที่พระราชอุทยานแวร์ซายส์
(Escalier des cents marches-orangerie) ภาพของ Copyleft [CC BY-SA 3.0 (https://creativecommons.org/licenses/by-sa/3.0)], from Wikimedia Commons.
หินกลมๆและหินตั้งยอดสามเหลี่ยมปิรามิด
บนกำแพงที่ล้อมรอบบึงในสวน Pazo de Oca [ปั๊สโซ เด โอ๊ะกะ] นอกเมือง Santiago de Comostela ในสเปน.
ประติมากรรมผลโคนสนขนาดยักษ์
ที่ประดับลานหนึ่งในวาติกัน (ยังมีประดับอีกหลายจุดในอาณาบริเวณเดียวกัน
รวมทั้งน้ำพุผลโคนสนที่มีนกยูงขนาบสองข้าง) แน่นอนว่ามีความหมายพิเศษโดยเฉพาะในยุคก่อนๆที่คนศึกษาวิเคราะห์เชิงอัลเคมี
(รสายนเวท) ว่าผลต้นสนหรือ pinecone นั้นเป็นสัญลักษณ์ของ the pineal gland ซึ่งคือต่อมในสมองของสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง ยังมีผู้วิจัยที่เทียบต่อไปถึงตาที่สามของ chakra หรือตาที่สามของพระศิวะ ที่เป็นตาของจิตวิญญาณ. (ในที่นี้
เปิดให้คิดเอาเองว่า ทำไมเปรียบเช่นนั้น)
ภาพ Royal
Pavilion ที่เมือง Brighton
(UK) อาคารสร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมอินเดีย
Mughal สร้างเสาสูงๆประดับส่วนบนของอาคารและบนยอดเสายังมี
“ฉัตรหิน”ประดับอีกด้วย (ดูคำ Chhatri/Chatri)
มุมหนึ่งของสวน De Tuinen Van Appeltern (ประเทศเนเธอแลนด์) เขาเจาะจงไว้ว่าเป็นThe Netherlands’ largest garden idea park ศูนย์รวมความคิดการสร้างสรรค์สวนทุกแบบทุกประเภท. เขาจัดเสนอให้เห็นเป็นตัวอย่างบนพื้นที่กว้างใหญ่ ใช้วัสดุแบบต่างๆ
และเน้นเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กับการนำวัสดุเหลือใช้จากวิถีชีวิต มาประกอบเป็นวัสดุใหม่ใช้ในสวนด้วย.
ในตัวอย่างนี้ เขาเอาไม้แห้งๆ
มาดัดมาประกอบเข้าเป็นลูกกลมๆ วางประดับสวน ดูเก๋ไม่น้อยเลย. ดูคลิปวีดีโอเกี่ยวกับสวนนี้ที่นี่
ยาวสองนาที.
Flag หรือ flag-stone
เป็นแผ่นหินพื้นราบเรียบ สี่เหลี่ยมหรือแผ่นยาว ใช้ปูพื้น บนทางเดินเป็นต้น.
แผ่นหินราบเรียบใช้ปูพื้นทางเท้าบนถนนสายหนึ่งในเมืองแคมบริดจ์
ให้สังเกตว่ามีอะไรแทรกเป็นพิเศษ ทำให้ถนนตรงนั้นผิดถนนทางเท้าอื่นใดในโลก
นั่นคือเขาแทรกลายดอกไม้เล็กๆเป็นทองสัมฤทธิ์ฝังลงประดับแผ่นหิน.
Floral clock นาฬิกาดอกไม้บนพื้นสนามหญ้า เป็นสิ่งประดิษฐ์ของยุคศตวรรษที่ 20 ประดับสวนสาธารณะ(และหรือนิวาสถานชายทะเล) ปลูกพันธุ์ไม้คลุมดินเตี้ยๆ แขนนาฬิกา ก็ประดับด้วยใบไม้ขนาดเล็กๆ. บอกเวลาจริงของท้องที่.
ภาพทั้งสองจากสวนสาธารณะบนถนน Princes
Street กลางเมือง Edinburgh
สก็อตแลนด์. เป็นมุมตรงทางขึ้นลงบันไดในสวน
ทั้งหน้าปัดและเข็มนาฬิกาประดับด้วยต้นกระบองเพชรพันธุ์หนึ่ง.
Floral emblem หรือ state flower ดอกไม้ประจำชาติ หรือประจำเมือง. ส่วนใหญ่เป็นดอกไม้ท้องถิ่นที่มีในประเทศนั้นหรือเมืองนั้น. บางประเทศเลือกดอกไม้ดอกเดียวแทนทั้งประเทศ
บางประเทศกลับมีดอกไม้ประจำเมืองหรือจังหวัดต่างๆด้วย. บางทีฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้เลือก บางทีเลือกโดยประชามติ.
คำ floral emblem เริ่มใช้เป็นครั้งแรกในประเทศออสเตรเลียและแคนาดา. ส่วนคำ state flower นั้นนิยมใช้ในสหรัฐอเมริกา. รายละเอียดของดอกไม้ประจำหรือดอกไม้สัญลักษ์เหล่านี้ผู้สนใจอาจหาอ่านได้ใน
Wikipedia เพื่อเป็นบทนำสู่การค้นคว้าต่อไป. ในที่นี้เราขอยกตัวอย่างบางประเทศดังนี้
ประเทศแคนาดา (Canada) ใช้ใบเมเปิล (maple leaf)
เป็นสัญลักษณ์ของประเทศแคนาดา.
ประเทศนี้ยังมีดอกไม้ประจำรัฐต่างๆที่อาจปรากฏเป็นส่วนหนึ่งของธงประจำรัฐ(หรือไม่ก็ได้)
เช่น รัฐ Alberta ใช้ดอกกุหลาบป่า (Wild Rose), รัฐ British
Columbia ใช้ดอก Pacific Dogwood เป็นต้น.
ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี1986 ประธานาธิบดี Ronald Reagan
ได้ลงนามในกฎหมายประกาศให้ ดอกกุหลาบเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของประเทศสหรัฐฯ. ประเทศนี้ยังมีดอกไม้ประจำแต่ละรัฐและต้นไม้ประจำแต่ละรัฐด้วย เช่น รัฐ Alaska คือดอก Forget-me-not, รัฐ California คือดอก California Poppy, รัฐ Hawaii คือดอก Hawaiian hibicus, รัฐ Louisiana คือดอก Magnolia, รัฐ Michigan คือดอก Apple blossom, รัฐ New York คือดอกกุหลาบ, รัฐ Texas คือดอก Purple
Passionflower. การเลือกดอกไม้หรือต้นไม้ประจำแต่ละรัฐนั้น
สภานิติบัญญัติเป็นผู้เลือก.
ประเทศเม็กซิโก ใช้ดอก Mexico Dahlia.
ประเทศโคลัมเบีย
ใช้ดอกแคทลียา (Cattleya trianae).
ประเทศภูฏาน (Bhutan) ใช้ดอกป้อปปี้สีฟ้า (Himalayan blue poppy).
ประเทศอินเดีย ใช้ดอกบัว.
ประเทศจีน ใช้ดอกโบตั๋นอย่างไม่ทางการ บางทีก็เป็นดอกบ้วยบานหรือดอกเบญจมาศ.
ประเทศอิหร่าน ใช้ดอกทิวลิป ปรากฏบนธงชาติของอิหร่านด้วย.
ประเทศญี่ปุ่นใช้ดอกซากุระบาน
แต่มิได้ประกาศเป็นทางการ. ในขณะเดียวกัน ก็มีดอกเบญจมาศ (Chrysanthemum) ปรากฏในตราประทับของตระกูลจักรพรรดิ.
ประเทศลาว ใช้ดอกจำปา.
ประเทศไทย ใช้ดอกราชพฤกษ์.
Floriade มหกรรมดอกไม้ ที่รวมถึงการแสดงดอกไม้ประจำชาติของชาติต่างๆและหรือการจัดแสดงดอกไม้ของละชาติ
รวมถึงการค้าดอกไม้พันธุ์ไม้
การจัดตั้งซุ้มเพื่อข่าวสารเกี่ยวกับดอกไม้และสิ่งแวดล้อม (ดู Floriade Canberra ต้นกำเนิด).
Floriade ในประเทศเนเธอแลนด์ เป็นงานมหกรรมดอกไม้และการทำสวนในระดับนานาชาติ
จัดขึ้นทุกสิบปี โดยเลือกสถานที่จัดแตกต่างกันทุกครั้ง. ตัวอย่างครั้งล่าสุดจัดที่ Venlo ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเนเธอแลนด์
มีการกำหนดเนื้อหาสำคัญของงานมหกรรมปีนั้นว่า “จงเป็นส่วนหนึ่งของเวทีธรรมชาติ เข้าประชิดคุณภาพชีวิตให้มากขึ้น”. ชื่อทางการอีกชื่อหนึ่งที่ประเทศเนเธอแลนด์ใช้คือ World Horticultural
Expo.
Florists’ societies คำ florist [ฟล้อริสทฺ] หมายถึงผู้ปลูกไม้ดอก
รวมถึงผู้ขายดอกไม้ และผู้ศึกษาเกี่ยวกับดอกไม้นานาพันธุ์. ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่สิบแปดเป็นต้นมา
บุคคลกลุ่มดังกล่าวในประเทศอังกฤษ รวมกันตั้งเป็นสมาคมขึ้น.
สมาคมนี้จัดนิทรรศการดอกไม้ตามวาระต่างๆ และจัดประกวดดอกไม้.
ดอกไม้ของสมาคมที่ปลูกกันขึ้นหน้าขึ้นตาเป็นดอกไม้กลุ่มสีชมพู, ดอก carnations, ดอก tulips, ดอก hyacinths, ดอก auriculus, ดอก anemones, ดอก polyanthus และดอก ranunculus. ปัจจุบันคงมีดอกพันธุ์อื่นๆอีก.
Flower garden สวนดอกไม้
หมายถึงแบบสวนที่มีแปลงดอกไม้ต่างๆของสวนนั้นเป็นจุดเด่นหรือจุดศูนย์กลางของสวน.
แปลงดอกไม้อาจจัดให้เหมือนกันหมด
หรือจัดเป็นลวดลายแปลกแยกแตกต่างกันไปทุกแปลงก็ได้. อุทยาน Keukenhof ที่ประเทศเนเธอแลนด์
น่าจะเป็นสวนทิวลิป(และดอกไม้จากเหง้า)ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งทุกคนรู้จักและเห็นภาพจนคุ้นตา. ในอังกฤษ สวนที่ Great Dixter
(Northian, East Sussex, SE of England) มีชื่อเสียงเป็นพิเศษในการจัดสวนด้วยพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดคละกันไปได้อย่างกลมกลืนสวยงามยิ่งนัก. เชิญติดตามไปดูในเพจของสวนได้ตามลิงค์ที่ให้ไว้.
สวนดอกไม้มุมหนึ่งในสวนพฤกษศาสตร์เมืองมิวนิค
(Munchener Botanischer
Garten)
ภาพจากอุทยาน Keukenhof ประเทศเนเธอแลนด์
---
มุมหนึ่งบนเกาะบุปผาชาติ มัยเนา
(Insel Mainau นอกฝั่งเมือง Konstanz ประเทศเยอรมนี)
มุมหนึ่งในอุทยาน
Luisenpark เมือง มันไฮม (Mannheim,
Germany).
มุมหนึ่งในอุทยานปราสาท
Schloss Schwetzingen [ชเว็ตซิงเงิน]
ในรัฐ Baden-Württemberg ประเทศเยอรมนี.
Flower meads เป็นเอกลักษณ์ของสวนยุคกลาง
ประกอบด้วยทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ หว่านเมล็ดพันธุ์ไม้ดอกหลากหลายพันธุ์ ปล่อยให้มันขึ้นคละและคลุมเต็มพื้นสนามหญ้าหรือทุ่งหญ้า. คำนี้จึงเป็นชื่อที่ใช้เรียกสนามหญ้าที่มีดอกไม้ป่าขึ้นเต็ม. และต่อมาก็อาจสร้างสวนแบบทุ่งหญ้าส่วนตัวขนาดเล็กในสวนของบ้านได้. (mead ย่อมาจาก meadow ทุ่งหญ้า, mead-flower คือดอกไม้ที่ขึ้นในทุ่งหญ้าตามธรรมชาติหรือเจาะจงปลูกเป็นสวนหย่อมหนึ่ง).
Cutty Sark [คัดทิ ซ้าก](สร้างขึ้นในปี 1869 เป็นเรือแบบ tea clipper ลำเดียวที่เหลือมาให้เห็นในปัจจุบัน), เรือมิได้จอดอยู่ในแม่น้ำแล้ว
เขาจัดพื้นที่บนฝั่งริมท่าเรือ Greenwich [เกร็นนิช] ทางใต้ของแม่น้ำเทมส์
เพื่อความสะดวกและปลอดภัยสำหรับเด็กๆผู้สนใจเข้าไปชม. โรงเรียนมักจัดกิจกรรมให้ไปเรียนรู้เรื่องเรือที่นั่นบ่อยๆ. พวกเด็กๆขึ้นๆลงๆปีนป่ายตามส่วนต่างๆของเรือ. พื้นที่แถวท่าเรือ Greenwich นั้นก็สวยงามไม่น้อย. ป้อมสีอิฐที่เห็นในภาพ (Greenwich Foot Tunnel-
South) เป็นทางเข้าออกอุโมงค์เดินเท้าใต้แม่น้ำ
สำหรับเดินข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำเทมส์ได้.
ทุ่งหญ้าธรรมชาติภายในพื้นที่โดยรอบปราสาท
Bran (Castelul
Bran, Transylvania, Romania) ที่เรียกกันให้หวือหวาว่า
ปราสาทดรากูล่า ดูคลิปปราสาทนี้ได้ที่นี่ ยาว 3:36 min.
จากสวนพฤกษศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยฮัมบูร์ก
(Botanischen Gartens der Universität Hamburg,
Germany)
ดอกสีเหลืองๆนั้นมีชื่อว่า
Dandelion (Taraxacum officinale) ที่แปลตามชื่อว่า “ฟันสิงโต” (ฟันนี้ไม่ต้องล่า ไม่ต้องฆ่า). ทุกคนเคยเห็นในทุ่งหญ้าทั่วไป ดอกหน้าตาคล้ายๆ sunflower
(Helianthus) แต่ขนาดจิ๋ว
จริงๆแล้วคนละสายพันธุ์. ดอกไม้ในทุ่งพวกนี้เป็นความสว่างไสวที่ธรรมชาติมอบให้แก่โลก. ดอกจิ๋วขนาดนั้น แต่ชื่อมีพลังเพราะแปลว่า “ฟันสิงโต” จึงมีนัยของความกล้าหาญ ความภาคภูมิใจ.
ภาพจากมุมหนึ่งของสวน
Nabana no Sato (なばなの里)
เมืองคุวานะ (Kuwana, Mie, Japan)
มุมหนึ่งในสวนพฤกษศาสตร์
เมืองมิวนิค
(Botanische Garten München-Nymhenburg, Germany)
ทุ่งดอกไม้ที่เกาะ
Nokonoshima, Fukuoka, Japan.
Folly ความหมายของศัพท์คือความคลั่ง(แบบขี้เล่น บ๊องหน่อยๆ
ผิดขนบเป็นต้น). ในบริบทของสวนคือรูปลักษณ์ใดก็ตามที่สื่อความเกินเลยหรือสิ่งที่ออกนอกขนบ. อาจเป็นสิ่งที่มีค่าราคาแพง
หรือเป็นสิ่งที่มีรูปลักษณ์ประหลาด เป็นสิ่งที่ดูไร้ประโยชน์หรือไร้ความหมาย. อาจเป็นปราสาทร้าง (sham castles), กำแพงหรือเสาปรักหักพัง, หอคอย, ถ้ำใต้ดินเป็นต้น. สวนภูมิทัศน์ในศตวรรษที่สิบแปด
เป็นเวทีแสดงของสิ่งประดับเหล่านี้. เจตจำนงของการเนรมิตนั้น เพื่อดึงดูดความสนใจ
เพื่อทำให้ฉงนสนเท่ห์ หรือเพราะเป็นความพอใจ เป็นรสนิยมส่วนตัวของผู้เป็นเจ้าของสวน. ในที่สุดก็อาจหมายถึงอาคารหรือแบบสถาปัตยกรรม(ขนาดเล็ก)ที่สร้างแทรกไว้ในสวน
เพื่อล่อตาเป็นต้น. (คำ folly นี้ชาวอังกฤษนิยมใช้ ไม่ปรากฏในบริบทสวนของชาติอื่น)
ภาพจากอุทยานภูมิทัศน์ Stourhead (Stourton
ในเทศมณฑล Wiltshire,
UK). เจดีย์สูงแหลมแบบกอติคสีอิฐ
มีชื่อเรียกว่า King Alfred’s Tower (หอพระเจ้าอัลเฟรด) กำกับไว้ว่าเป็น folly แบบหนึ่งในภูมิทัศน์ที่นั่น เจดีย์สูงแหลมตามแบบกอติค (ศตวรรษที่ 13-15) โผล่ขึ้น “แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย” ในภูมิทัศน์ป่า จึงอาจเป็น “อะไรที่ออกจะล้นๆ” สำหรับคนอังกฤษ แต่แสดงเสรีภาพของผู้เป็นเจ้าของว่าย่อมทำสิ่งที่เขาคิดเขาชอบได้. ไกลออกไปเห็นอาคารสถาปัตยกรรมโรมันคลาซสิก
ที่เขาตั้งชื่อเรียกอย่างเจาะจงว่า วิหารอพอลโล-Temple of Apollo.
ที่อุทยานในปราสาท
Blair Castle มีอาคารเล็กๆหลังหนึ่งที่ตั้งชื่อเรียกว่า folly เพราะไปอยู่สุดพรมแดนสวนหรืออย่างไรไม่รู้ได้. เดินไปสำรวจ เป็นห้องเดียวไม่มีอะไรมากนัก
มีโต๊ะวางเอกสารข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสวน. ที่น่าสนใจคือการประดับพื้นที่สวนหน้าอาคารด้วยรูปปั้นอีกหลายรูป
คนสร้างมิได้ละเลยที่จะเพิ่มเสน่ห์ให้พื้นที่บริเวณนั้น. มองอาคาร folly ในภาพกว้าง เห็นสะดุดตาแต่ไกลเลย. จูงใจคนให้เดินไปชม.
สวนมุมหนึ่งในบริเวณ Burggarten
เมือง Graz ประเทศออสเตรีย. สระน้ำกลมประดับด้วยประติมากรรมรูปปั้นตามตำนานกรีกโรมัน
เป็นเทพหรือนางไม้แห่งสายน้ำ (nymphs, tritons). อดแปลกใจไม่ได้ว่า ร่มเหล็กคันใหญ่คันหนึ่งที่ดูไม่เป็นแบบตะวันตก(จีนก็ไม่เชิง)
เข้าไปเป็นองค์ประกอบบริเวณนั้นทำไม. นี่สิ! น่าจะเป็นตัวอย่าง
ของความเกินๆที่ชัดเจน.
Forest lawn เป็นบริเวณโล่งภายในสวนป่า มักจัดให้เป็นทุ่งหญ้าสำหรับแกะ ลา ล่อหรือม้า ที่เล็มหญ้าอย่างอิสระ.
ทุ่งหญ้าในสวนป่ามีมาตั้งแต่สมัยกลางแล้ว ดังปรากฏในวรรณกรรมร้อยกรองพื้นบ้าน พรรณนาถึงสนามหญ้าโล่งสำหรับสัตว์เลี้ยง และมีพุ่มไม้พันธุ์หนามแหลมอยู่โดยรอบ.
สองภาพจากบริเวณสวนที่ Henry Moore Foundation Perry
Green (Hertfordshire, UK) ประติมากรรมของ Henry Moore ตั้งเด่นกลางทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์. Henry Moore มีอุดมการณ์เกี่ยวกับประติมากรรมว่า ควรไปตั้งกลางแจ้ง เปิดให้คนเข้าใกล้
ไปดูไปแตะต้อง ดูได้จากทุกมุม.
ประติมากรรมกำกับชื่อว่า Sheep
Piece 1971-72
ประติมากรรมกำกับชื่อว่า Large
Reclining Figure 1984
Formal style หรือ formal garden ในความหมายตรงข้ามกับคำ
Informal style หรือ informal garden หมายถึงสวนแบบแผน
เป็นแบบสวนคลาซสิกที่สืบทอดขนบการสร้างสวนจากจักรวรรดิโรมัน
และมาเป็นแบบสวนฝรั่งเศสที่เนรมิตขึ้นในศตวรรษที่สิบเจ็ด.
เอกลักษณ์ของสวนแบบนี้คือ ความสม่ำเสมอของรูปลักษณ์ ลวดลายเป็นแนวเส้นตรง
มุมตัดตรงและลายวงกลมตามรูปลักษณ์เรขาคณิต (โดยยึดตามทฤษฎีว่าด้วยรูปลักษณ์ของ
Plato). สวนแบบแผนจึงโยงไปถึงสวนฝรั่งเศส
อิตาเลียนและสวนดัตช์เป็นส่วนใหญ่. การสร้างและทำนุบำรุงรักษาสวนแบบนี้ใช้ทั้งแรงคนและแรงทรัพย์จำนวนมาก. สมัยหลังต่อมา การสร้างสรรค์สวนแบบแผนยุติลง.
สวนแบบแผนที่ยังเหลือให้ชมจึงเป็นสวนที่เนรมิตไว้มานานหลายศตวรรษแล้วและเจ้าหน้าที่หรือองค์การที่เกี่ยวข้อง
พยายามอนุรักษ์ไว้ให้ชนรุ่นหลังๆได้ชมเป็นตัวอย่าง.
อุทยานหรือสวนในวิลลาอิตาเลียนจำนวนมากเป็นตัวอย่างของสวนแบบแผนสมัยเรอแนสซ็องส์ของอิตาลี. พระราชอุทยานแวร์ซายส์เป็นตัวอย่างของสวนแบบแผนฝรั่งเศส (ดูที่คำ French Style). พระราชอุทยาน Het Loo เป็นตัวอย่างของสวนแบบแผนดัตช์ (ดูที่ Dutch Garden)
ตัวอย่างสวนแบบแผนฝรั่งเศสจากอุทยาน Villandry
หนึ่งในพระราชวังแถบ
Châteaux de la Loire [ชาโต เดอ ลา ลัวร]
พระราชวังริมฝั่งแม่น้ำลัวร์ในฝรั่งเศส
วิลลาลานเต่ (Villa Lante) อยู่บนเนินสูง เหนือหมู่บ้าน Bagnaia ดังในภาพข้างล่างนี้. อยู่ในเมือง Viterbo, ทางเหนือของกรุงโรม. สร้างขึ้นในศตวรรษที่16 เคยเป็นที่พำนักของสันตะปาปาหลายองค์. ลักษณะพื้นที่เป็นแนวยาวแคบสูงขึ้นไปบนยอดเนิน สวนจึงเป็นแบบชั้นๆต่างระดับกัน. มีกระแสน้ำไหลลงจากบนยอดเนิน ผ่านประติมากรรมน้ำพุในแต่ละระดับ (ตรงหมายเลข 8,7,6,5,4) จนถึงสระสี่เหลี่ยมชั้นล่าง ตรงหมายเลข
2.
ภาพถ่ายมุมสูงจากบนยอดเนินลงสู่บริเวณหมู่บ้าน
Bagnaia
ภาพวาดลายเส้นพื้นที่ของ
Villa Lante ทั้งหมดจากศตวรรษที่16
ผังสวนที่ Villa
Lante [วิลหละ ลานเต่]
เป็นสวนแบบแผน
ตั้งแต่สวนชั้นล่างที่หมายเลข
2 ขึ้นไปจนถึงชั้นสูงสุดบนยอดเนิน ที่หมายเลข 9
สระน้ำสี่เหลี่ยมจัตุรัส(ในสวนสี่เหลี่ยมหมายเลข2ชั้นล่าง)
ล้อมรอบด้วยแปลงปาร์แตร์ที่ใช้ต้น box ปลูกติดต่อกันเป็นลวดลายดอกไม้
ตัวอย่างสวนแบบแผนที่
Drummond Garden (Perthshire,
UK) ที่สร้างสรรค์ได้งดงามเป็นเลิศ. สวนแบบแผนในอังกฤษเหลือน้อยแห่ง แห่งสวยๆอยู่ใน
สก็อตแลนด์มากกว่า. ปลายศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา อังกฤษหันไปนิยม “จำหลัก” ธรรมชาติให้เป็นภูมิทัศน์ที่งามน่าทึ่งและสงบผ่อนคลายตามอุดมการณ์ของสวนสวรรค์ที่พวกเขาใฝ่หา
กลายเป็นผู้ปูฐานของการสร้างสรรค์สวนภูมิทัศน์ของยุโรป. (ดูที่คำ English garden)
----------------------------------------------------
F-2 >> Fountain.
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/05/f-2-fountains.html
เมนูหนังสือ ประมวลความรู้จากศัพท์อุทยานศิลป์
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/06/mygardenbook-menu.html
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/05/f-2-fountains.html
เมนูหนังสือ ประมวลความรู้จากศัพท์อุทยานศิลป์
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/06/mygardenbook-menu.html
Comments
Post a Comment