W-X-Y-Z

Walk หมายถึงทางเดินภายในสวน หรือทางที่เตรียมไว้ให้คนเดิน มักเป็นทางหญ้าปรก ทางโรยกรวดหรือทราย. เป็นทางเดินออกกำลัง ทางเดินโชว์ตัว หรือทางเดินในหมู่เพื่อนสองสามคน เดินไปคุยกันไป หรือเป็นทางเดินสู่จุดชมวิว. โดยปกติทางแบบนี้จะเป็นทางที่พื้นดินราบสม่ำเสมอ. ทางปูทรายเคยเป็นที่นิยมโดยเฉพาะในศตวรรษที่18 แต่คนทำสวนชอบทางโรยกรวดมากกว่า เพราะน้ำไม่ขัง จึงแห้งเร็ว. ในยุคใหม่เริ่มเป็นทางลาดยางแล้ว.


เส้นทางเดินภายในอุทยาน Dessau-Wörlitz เยอรมนี เป็นเนินดินมั่นคง ทั้งทางสายตรงและลดเลี้ยว เดินไปดูอาคารประดับสวนแบบต่างๆ หรือเดินชมทิวทัศน์ไปตามทางได้สะดวก.

Wall ผนังหรือกำแพง. ในบริบทของสวน กำแพงมีไว้เพื่อประโยชน์ด้านการเพาะปลูกพืชเป็นสำคัญ เช่นให้พืชเกาะ จัดกิ่งให้แนบติดกำแพง หรือจัดให้กิ่งไม้เลื้อยไปตามความยาว จนในที่สุดปิดกำแพงนั้นมิดไปเลยก็มี. มองดูเป็นกำแพงใบไม้. กำแพงภายในสวนบางกรณีเจาะจงเนรมิตอย่างสวยงาม ให้เป็นสิ่งประดับสวนแบบหนึ่ง. ในเขตอากาศหนาว กำแพงยังอาจมีท่อน้ำอุ่นแฝงไว้ภายในเพื่อให้ไออุ่นแก่ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ติดๆกำแพง.
การปลูกต้นไม้เลื้อยให้ขึ้นไปประดับกำแพง ทำกันเสมอมาทั้งเจตนาและไม่เจตนาเพราะต้นไม้ขึ้นไปเอง. หากต้องการให้ไม้เลื้อยปกคลุมไปบนพื้นที่ที่จัดให้ ก็ต้องขยันจัดกิ่งและตัดกิ่ง โดยเฉพาะหากเป็นต้นอ๊ายวี (ivy) ที่เจริญเร็วมาก ต้องดูแลสม่ำเสมอ. ภาพนี้จากเมือง Gruyères ประเทศสวิสเซอแลนด์.
วัสดุที่ใช้สร้างกำแพงในสวนนั้น มีมากหลายแบบหลายชนิด ยิ่งในสมัยปัจจุบันยิ่งมีให้เลือกมากขึ้น มิได้จำกัดอยู่ที่อิฐ หิน ไม้ ต้นไม้ กิ่งไม้หรือลำต้นอย่างในสมัยก่อน  มีการนำขวดหรือกระป๋องมาปรับใช้ แทนการทิ้งเป็นขยะ ด้วยการนำมาเรียงกันและก่อเป็นกำแพงกั้นพื้นที่ในสวนได้. มีวัสดุอื่นๆอีกหลายชนิดที่นำกลับมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในรูปแบบต่างๆกัน.
    กำแพงในปัจจุบันได้กลายเป็นพื้นที่สวนแบบหนึ่งอย่างเต็มศักดิ์ศรี เรียกการทำสวนบนกำแพง(หรือสิ่งยึดแบบใดที่ตั้งขึ้น) ว่า vertical garden. อาคารสำนักงานที่ตั้ง Caixa Forum Madrid ได้ใช้กำแพงของอาคาร เป็นพื้นที่ทำสวนในแนวตั้งเมื่อปี 2007 นับเป็นสวนแนวตั้งขนาดใหญ่และถาวรแห่งแรกๆในยุโรป. ในยุคนั้นเป็นนวตกรรมที่แปลกแหวกแนวมาก เป็นกำแพงเขียวด้วยพืชพรรณ เป็นผลงานออกแบบของ Patrick Blanc ชาวฝรั่งเศส ผู้เป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์และนักพฤกษศาสตร์. เขาได้เนรมิตกำแพงสวนแนวตั้งหลายแห่งในฝรั่งเศส ทำให้การออกแบบสวนแนวตั้งแพร่หลายออกไปในวงกว้างสู่ทุกประเทศ แต่เขามิได้เป็นผู้ริเริ่มการปลูกสวนในแนวตั้ง (คนริเริ่มดีไซน์สวนแนวตั้งคืออาจารย์ชาวอเมริกัน ชื่อ Stanley Hart White จาก University of Illinois Urbana-Champaign, 1938).
ต้องไม่ลืมว่า กำแพงพืชนั้น ยิ่งสูงยิ่งดูแลลำบาก การทำเพื่อเป็นการโชว์ช่วงระยะเวลาหนึ่งนั้น อาจทำให้สวยตื่นตาตื่นใจได้ แต่หากยืดต่อไปเป็นการถาวร ต้องมีแผนการดูแลอย่างถี่ถ้วน ในระยะยาวอาจมีปัญหาต่างๆตามมา
ปัจจุบัน การปลูกพืชผักหรือไม้ดอกในแนวตั้งกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ดูตัวอย่างสวนตั้งขนาดใหญ่แห่งแรกในสเปน ที่ Caixa Forum Madrid เป็นพิพิธภัณฑ์และศูนย์วัฒนธรรม ในความอุปถัมภ์ของสถาบันการเงิน La Caixa ที่เป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่เป็นที่สามของสเปน.

กำแพงที่ปลูกพืชพรรณประเภทต่างๆสร้างภาพลักษณ์ของป่าเขียวอุดมสมบูรณ์ ประติมากรรมรูปช้าง งวงและทั้งตัวคว่ำลง เหมือนเดินลงมาจากไหล่เขาที่เป็นป่าเขียว. การจัดสวนแนวตั้งประกอบประติมากรรมช้างในท่าเดิน ดูเหมาะกันดีภาพนี้ไปถ่ายเมื่อปี 2010 แต่สวนแนวตั้งตรงนั้นมีมาตั้งแต่ปี2007แล้ว.
เมื่อถ่ายแยกช้างออกจากพื้นหลัง ช้างทั้งตัว มีงวงเท่านั้นที่ตั้งติดพื้น เหมือนกำลังแสดงกายกรรมกลางเวหา. รูปปั้นช้าง Gran elefant dret กลับหัวกลับหาง เป็นผลงานของ Miquel Barceló ศิลปินชาวสเปน. เขาสร้างรูปปั้นช้างไว้มากหลายแบบหลายลักษณะ ไปโชว์ในหลายประเทศ วิธีการของเขา เหมือนจะท้าทายแรงศูนย์ถ่วงของโลก.

ภาพข้างล่างต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างการจัดพื้นที่สวนแนวตั้ง จากงานมหกรรมพืชสวนนานาชาติ Floriade 2012 ที่ Venlo ประเทศเนเธอแลนด์ ปี 2012 (Floriade จัดสิบปีครั้ง ครั้งต่อไปคือปี 2022 ที่เมือง Almere เนเธอแลนด์).
กำแพงตึกหรืออาคาร นำมาเป็นพื้นที่จัดสวนในแนวตั้งได้ 
เป็น Vertical garden ที่ไม่เปลืองพื้นที่ราบ

กำแพงปลูกต้นไม้ เป็นหลุมๆ เรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ 
นำมาใช้เป็นกำแพงห้องสวนได้ ดังที่เห็นในภาพนี้

วัสดุใหม่(เช่นหินก้อนๆใส่ในกรอบตาข่ายเหล็ก) อาจนำมาก่อกำแพงหรือทำเก้าอี้โซฟา. ท่อนไม้มาวางเรียงๆกันเหมือนเตรียมไม้ไว้ใส่เตาผิงให้ความอบอุ่น แต่ใช้จริงหรือใช้ประดับบ้านก็ได้ ใช้เป็นกำแพงคั่นห้องสวนได้เหมือนกัน. ความคิดใหม่ๆ แล้วแต่จริตของแต่ละคน นำไปใช้ในชีวิตจริง สะดวกหรือเหมาะสมกับบริบทแวดล้อมหรือไม่ เป็นคนละประเด็น.

กำแพงกรวดหรือหินจัดอยู่ในกรงตาข่าย เสริมเป็นกำแพงตึกด้านนอก แล้วเจาะปลูกพืชพรรณที่ดูแลง่าย กำแพงช่วยปรับอุณหภูมิของภายในอาคารด้วย ลดค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงานไฟฟ้าลงได้ด้วย. (นี่เป็นกรณีเมืองหนาว สำหรับเมืองร้อนคงต้องคิดหาวิธีใหม่และยังมีปัญหาแมลงต่างๆด้วย).

Fünf Höfe ช็อปปิ้งอาร์เขตกลางเมืองมิวนิค (เชื่อมพื้นที่เขต Salvator-, Theatiner-, Kardinal-Faulhaber-Strasse) เป็นแกลลอรีเชื่อมอาคารในละแวกใกล้เคียงต่อกันไปห้าแกลลอรี. เพดานเชื่อมทางเดินภายในแกลลอรีเป็นกระจก(ไม่ตลอดทุกเส้นทาง) ที่ทำให้แสงสว่างส่องผ่านลงถึงพื้นแกลลอรีที่คนเดินช็อปปิ้งหรือแวะทานอาหารตามร้านที่อยู่ในแกลลอรีห้าเส้นทางนี้. ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงได้เช่นกัน และเขาคิดดีมากคือ ปลูกไม้เลื้อยให้ใบไม้ตกลงเป็นสายจากเพดาน โดยให้กระถางหรือกระเปาะดินกับรากต้นไม้ ตรึงไว้ที่โครงตาข่ายที่วางเชื่อมสองฝั่งเพดาน. ใบไม้เป็นริ้วสายๆทอดลงต่ำ นอกจากสวยแล้ว ยังเพิ่มออกซิเจนภายในแกลลอรีได้อย่างดี. (ผู้ออกแบบการปลูกพืชพรรณ เป็น“สวนแขวน”แบบนี้คือ Tita Giese)

ภายในแกลลอรี Fünf Höfe (ที่แปลว่า Five Courtyards) กลางเมืองมิวนิค. มีหอศิลป์ Hypo-Kunsthalle และชั้นสูงๆขึ้นไปเป็นอพาร์ตเม้นต์ที่พ้นสายตาคนทั่วไป. ถือเป็นเขตหรู มีระดับเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก.

Walled garden สวนภายในกรอบล้อมของกำแพง มีขนาดเล็กและเพื่อจุดมุ่งหมายหนึ่งโดยเฉพาะ เช่นในสมัยกลางเป็นสวนสมุนไพร หรือสวนครัภายในอารามนักบวช. กำแพงล้อมส่วนใหญ่มักก่อด้วยอิฐแข็งแรงกันลมและฝุ่นได้ดี เพื่อปกป้องพืชสมุนไพรและพืชผักในสวนที่โดยปริยายเปราะบางกว่าพืชพรรณอื่นๆ. บางทีก็ใช้คำเรียกอย่างเจาะจงว่า herb garden หรือ kitchen garden เป็นต้น (ดูที่สองคำนี้). 

Wardian case ลังหรือตู้กระจก ปิดได้ทุกด้าน สำหรับการขนย้ายพืชพรรณ. Nathaniel Ward (1791-1868) เป็นผู้ริเริ่มใช้ลังกระจกสำหรับขนย้ายพืชพรรณแปลกใหม่ที่ค้นพบในต่างแดน เพื่อนำกลับเข้าประเทศอังกฤษ. สมัยนั้นและจนถึงทศวรรษที่1830 พืชพรรณต่างแดนที่ชาวอังกฤษพยายามนำกลับนั้น เสี่ยงต่อความตายสูงเพราะระยะเวลาเดินทางเรืออันยาวนานและการเดินทางข้ามเขตภูมิอากาศที่แตกต่างกันมาก. การใช้ลังกระจกขนย้ายพืชพรรณได้ช่วยยืดชีวิตพืชพรรณไว้ เพราะกระจกนอกจากจะปกป้องพืชพรรณภายในให้หลุดพ้นจากอิทธิพลของสภาพอากาศข้างนอกในระหว่างเดินทาง ยังช่วยกักและสะสมความชื้นจากการหายใจของพืชพรรณเองไว้ภายในลัง. ความชื้นนี้เองที่พืชกลับดูดซับไปธำรงค์ชีวิตของมันต่อไป ทำให้พืชไม่เหี่ยวเฉาหรือแห้งตาย. ผลคือทำให้มีพืชพรรณแปลกๆใหม่ๆที่รอดตายจากการเดินทาง สามารถเพาะและขยายพันธุ์ได้อย่างเป็นผลดีในประเทศอังกฤษ.
    ลังกระจกแบบนี้เป็นต้นแบบของการสร้างเรือนกระจกขนาดใหญ่ๆเพื่ออภิบาลและเพาะพันธุ์พืช. ปัจจุบันลังกระจกอาจเป็นที่จัดแสดงพืชพันธุ์ เหมือนเป็นแจกันดอกไม้แบบหนึ่งด้วย หรือเป็นสิ่งประดับสวนอย่างหนึ่งก็สวยเช่นกัน.
ตู้กระจกขนย้ายต้นไม้ในยุคศตวรรษที่19 ปัจจุบันใช้ปลูกสวนส่วนตัวขนาดเล็กในห้อง ก็ไม่เลวนัก. ภาพจาก Wikipedia.Commons [public domain].

Waterfall หรือ Falls คำนี้ให้ความหมายใกล้เคียงกับคำ cascade ทั้งสองคำหมายถึงน้ำตก แต่คำ waterfall มักใช้หมายถึงน้ำตกธรรมชาติขนาดใหญ่ เช่นน้ำตกไนแอการาที่ใช้ว่า Niagara Falls หรือน้ำตกวิคตอเรียในทวีปแอฟริกา (Victoria Falls) เป็นต้น. อย่างไรก็ดี อังกฤษเองบางทีก็ใช้คำนี้เรียกน้ำตกเนรมิตภายในสวน แม้ว่าจะเป็นน้ำตกขนาดเล็กก็ตาม. ดูภาพน้ำตกแบบต่างๆในสวนได้ที่คำ cascade ในบล็อกนี้ และชมตัวอย่างน้ำตกจากที่อื่นๆเช่น
ถ่ายจากบนเนินสูง แต่ยังไม่ใช่ส่วนสูงที่สุด. ผู้คนไปคอยกัน อยากดูเวลาเขาเปิดน้ำให้ไหลลงจากบนยอดเขา. นี่คืออุทยานภูมิทัศน์บนเขาขนาดใหญ่ชื่อ Bergpark Wilhelmshöhe ตั้งอยู่ที่เมือง Kassel พื้นที่ 2.4 ตารางกิโลเมตร เป็นสวนขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปที่ตั้งบนเนินสูง.
ต้นกำเนิดของน้ำตกนี้อยู่ในอาคารเหมือนป้อมปราการหนาทึบ มีรูปปั้นของเฮอคิวลิสเด่นบนยอด (รูปปั้นเฮอคิวลิสท่านี้ เป็นประติมากรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดรูปหนึ่งจากศิลปะโบราณ เพราะขนาดสรีระที่ผิดมาตรฐานสัดส่วนรูปปั้นกรีก. เห็นกล้ามเนื้อทุกมัดงดงามและชัดเจน เป็นต้นแบบของการโชว์กล้ามเนื้อ. เรียกรูปปั้นเฮอคิวลิสท่านี้ว่า Farnese Hercules (ในภาษาอิตาเลียนว่า Ercole Farnese เป็นหนึ่งในคลังสะสมศิลปวัตถุของตระกูล Farnese ที่มีอำนาจในยุคเรอแนวซ็องส์อิตาเลียน). ชัดเจนว่าต้องการเน้นพลังอำนาจและวิสัยทัศน์ของผู้ให้สร้าง แนวแกนของสวนนี้จากยอดเขาตรงรูปปั้นเฮอคิวลิสเป็นเส้นตรงไปถึงจุดกลางเมืองเลย. ในระดับต่ำๆลงไป เขาสร้างถ้ำประกอบด้วย ประดับรูปปั้นจากตำนานที่เกี่ยวกับน้ำ แต่ฝีมือไม่ดีนัก หรือเพราะเขาเอารูปปั้นจริงไปเก็บในพิพิธภัณฑ์ แล้วเอารูปปั้นจำลองทำด้วยหินปลอมๆมาตั้งแทน.
ภาพป้อมใหญ่ต้นน้ำของน้ำตกที่นั่น. ภาพนี้ของ Hendrik Thole, 25 April 2004. [GFDL CC-BY-SA-3.0], via Wikimedia  Commons.
รูปปั้น Farnese Hercules ที่ลอกเลียนมา(จากต้นแบบของรูปปั้นเฮอคิวลิสที่เก่าแก่ที่สุดจากศตวรรษที่4BC) สร้างขึ้นในราวปี126 AD อยู่ที่พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติเมืองเนเปิลประเทศอิตาลี (Museo Archeologico Nazionale di Napoli). เป็นแบบรูปปั้นเฮอคิวลิสที่แพร่หลายมาก เห็นได้ตามสวนและอุทยานต่างๆในยุโรปเช่นที่ Blair Castle (UK), ที่ Vaux-le-Vicomte (France), Peterhof (St.Petersburg, Russia).

      ภายในป้อมมีร้านอาหาร มาตรฐานเยอรมัน
เมื่อเขาเริ่มเปิดน้ำ น้ำไหลลงตามบันไดน้ำที่เป็นแนวแกนตรงจากยอดเนิน
แล้วแยกเป็นสองสายหลัก
 สายหนึ่งไหลผ่านสะพานนี้

อีกสายหนึ่งไหลผ่านสะพานน้ำ (aqueduct)

จากสะพานน้ำ ไหลลงมาเรื่อยๆผ่านวิหารกรีก

น้ำทั้งสองสาย มารวมในอ่างเก็บบ้ำใต้สระน้ำใหญ่ แล้วส่งพุ่งขึ้นสูงและซู่ซ่า 

น้ำกระเส็นกระสายไปทั่ว ทุกคนตรงนั้นได้สัมผัสละอองน้ำกันถ้วนหน้า.


ภาพถ่ายจากตอนบนของน้ำตกในพระราชอุทยาน La Granja (นอกเมือง Segovia, Spain). น้ำไหลลงไปรวมที่สระกลมขนาดใหญ่ข้างล่าง. น้ำตกนี้ตั้งบนแกนหลักจากกลางตำหนักมาถึงจุดต้นน้ำ เนื่องจากเป็นฤดูใบไม้ร่วง เขาปิดน้ำแล้ว จึงไม่ได้เห็นพลังน้ำไหล.




กลุ่มประติมากรรมน้ำพุน้ำตกขนาดใหญ่ชื่อ Gefion Fountain ที่สวนสาธารณะ Langelinie Park ใกล้ฝั่งท่าเทียบเรือ มีวัดแอนกลิกันชื่อ St. Alban อยู่ข้างๆ. เป็นสถาปัตยกรรมน้ำพุน้ำตกในเมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen, Denmark) เมื่อเปิดให้น้ำไหลแล้ว น้ำไหลพุ่งแรงมาก. ศิลปินเสนอภาพเทพสตรี Gefion ในตำนานชนเผ่านอร์สโบราณ ที่เล่ากันว่า กษัตริย์ Gylfe แห่งสวีเดน ยินดีมอบที่ดินมากเท่าที่เธอสามารถจะไถนาบนแผ่นดินนั้นได้ ภายในหนึ่งวันหนึ่งคืน. ให้เธอใช้วัวไถนาได้สี่ตัว. เธอได้แปลงร่างลูกชายสี่คนของเธอเป็นวัวขนาดใหญ่ที่มีพละกำลังมหาศาล. วัวทั้งสี่ได้ไถนาเจาะคันไถลงไปลึกมาก จนดึงให้แผ่นดินยกขึ้นและลากลงไปทะเล กลายเป็นเกาะ Zealand ที่เป็นเกาะใหญ่ที่สุดและมีประชาชนอยู่หนาแน่นที่สุดของประเทศเดนมาร์ก และเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงโคเปนเฮเกนและเมืองสำคัญชื่อ Roskilde. ในกลุ่มประติมากรรมนี้ เทพสตรี Gefion กำลังคุมวัวทรงพลังสี่ตัวอย่างขยันขันแข็ง. 
  
Water garden สวนน้ำหรืออุทยานน้ำ. ชาวอาหรับในตะวันออกกลางเป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์สวนที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบเด่นที่สุด ทั้งนี้เพราะน้ำคือชีวิต คือความอยู่รอดของผู้คนโดยเฉพาะในภูมิประเทศและภูมิอากาศของดินแดนกึ่งทะเลทรายและทะเลทราย. ความร่มรื่นของสวน ย้ำกันเสมอมาว่าเป็นภาพลักษณ์และภาพสะท้อนของสวนสวรรค์ในแดนของอัลลาห์. ชาวยุโรปที่ได้ไปเห็นสวนน้ำตั้งแต่ต้นยุคกลางนั้น เกิดจิตสำนึกเกี่ยวกับน้ำขึ้นมาอย่างมิเคยมีมาก่อน. น้ำกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งในการสร้างสรรค์สวนในตะวันตก ทั้งในแง่ของระบบการส่งลำเลียงน้ำไปให้ทั่วบริเวณที่ต้องการ และในแง่ของการเป็นสิ่งประดับสวน. สวนน้ำในที่สุดหมายถึงบริเวณหนึ่งในสวนที่มีน้ำเป็นจุดเด่น ประกอบด้วยหิน สระ น้ำตกและพืชพันธุ์น้ำ รวมกันสร้างภาพลักษณ์ของน้ำที่สวยงามดีเด่นที่สุดของสวนนั้น. สวนน้ำอาจหมายถึงบริเวณที่มีห้วงน้ำผืนใหญ่เด่นเหนือผืนดินที่อยู่รอบข้าง เช่นที่ Studley Royal (Yorkshire, UK) มีสระน้ำหลายๆสระต่อเนื่องกันไปบนพื้นที่อันกว้างใหญ่. 
ภาพบริเวณสระน้ำจันทร์เจ้า (the Moon ponds) ที่มีทั้งแบบพระจันทร์เต็มดวงและพระจันทร์เสี้ยว พร้อมวิหารโรมันประดับบนริมฝั่งน้ำ ตั้งชื่อไว้ว่า Temple of Piety ที่เจาะจงว่าสร้างเพื่อเทิดเกียรติของเทพเฮอคิวลิส (ทำให้ต้องนึกโยงไปถึงเฮอคิวลิส ว่ามีจิตเป็นกุศล เปี่ยมด้วยคุณธรรมอย่างใดแค่ไหน)
ภาพนี้จากเว็ปเพจของ Gardenvisit.com
ภาพของ Iain Gilmour ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 17 May 2005 
จากเว็ปเพจ www.silverexpressions.co.uk 
ปรากฏใน Wikimedia Commons [CC BY 2.0].
ภาพมุมสูงเห็นเส้นทางน้ำใน Fountains Abbey and Studley Royal ของ Sharon Lathan จาก sharonlathanauthor.com
ภาพสุดท้ายนี้ของ National Trust และ/หรือจาก pinterest.com
ภาพมุมสูงที่รวมทุกพื้นที่น้ำของอุทยาน Studley Royal and Fountains Abbey (North Yorkshire, England) สถาปนิกต่างยืนยันว่านั่นเป็นสวนน้ำหนึ่งไม่มีสองในอังกฤษ.  
ทั้งหมดแสดงในเห็นวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและยิ่งใหญ่ของ John Aislabie ผู้เป็นเจ้าของ Studley Royal และเป็นผู้ออกแบบสวนทั้งหมด แล้วมอบให้ Robert Benson สถาปนิกสวนเป็นผู้คุมผู้รังสรรค์ตั้งแต่ปี 1718 จนแล้วเสร็จในปี 1730. ต่อมาลูกชาย William Aislabie ได้ซื้อพื้นที่และขยายอุทยานออกไปรวมผืนดินติดต่อกัน คือของ Fountains Estate (ที่เคยเป็นที่ตั้งอารามนักบวชเบเนดิคตินคณะซิสเตอร์เซียน-Cistercian ตั้งแต่ปี 1132 แต่อารามถูกยุบลงในสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่แปด ผู้ประกาศแยกอังกฤษออกจากเครือคริสต์จักรที่กรุงโรม. พื้นที่ทั้งหมดถูกขายให้แก่พ่อค้า เอาเงินเข้าพระคลังไป และถูกขายทอดตลาดผ่านมือมาเรื่อยๆ. อารามวัดจึงถูกละทิ้งจนเหลือเพียงซากปรักหักพัง). สรุปสั้นๆได้ว่า อุทยานน้ำที่นั่นเป็นตัวอย่างงามที่สุดตัวอย่างเดียวของ Georgian water garden ในประเทศอังกฤษ ได้ขึ้นทะเบียนยูเนสโกเป็นมรดกโลกในปี 1986. ข้อความหนึ่งที่ระบุในบันทึกมรดกโลกกล่าวว่า
<< a humanized landscape…around the largest medieval ruins in the United Kingdom…combined with the planning of water garden..is a true masterpiece of human creative genius >>
ศาสตราจารย์ Tom Turner (ในเว็ปเพจ gardenvisit.comระบุว่า การสร้างผืนน้ำอันยาวเหยียดสวยงามที่ Studley Royal นั้น ได้แบบและแรงบันดาลใจจากสวนน้ำที่มเหาฬารที่สุดในบริเวณอุทยานปราสาท Château de Chantilly (ฝรั่งเศส) ในปลายศตวรรษที่ 17 ที่เป็นผลงานหนึ่งของภูมิสถาปนิกชาวฝรั่งเศส André Le Nôtre (1613-1700, ก่อนหน้านั้นเขาเป็นผู้ออกแบบอุทยานที่ Vaux-le-Vicomte, ที่ Fontainebleau, อุทยาน Les Tuileries, ที่แวร์ซายส์เป็นต้น). ดูภาพอุทยานน้ำที่ปราสามฌ็องตียี่ข้างล่างนี้
 สวนน้ำที่อุทยานปราสาทฌ็องตียี่ (Château de Chantilly)
ภาพจากเว็ปทางการของปราสาทที่ domaindechantilly.com



เมื่อเห็นผืนน้ำขนาดใหญ่ ชาวฝรั่งเศสนึกเทียบว่าเป็นสนามหญ้าผืนใหญ่ หรือเทียบกับพื้นสวนที่จัดเป็นแปลงปาร์แตร์แบบหนึ่ง แต่เป็นปาร์แตร์น้ำ (parterre d’eau) ดังตัวอย่างที่เจาะจงไว้เช่นนั้นเมื่อกล่าวถึงสระน้ำใหญ่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสองสระที่อยู่คู่ขนานกันในพระราชอุทยานแวร์ซายส์. ที่นั่นเขาเรียกสระน้ำทั้งสองว่าเป็นปาร์แตร์น้ำ (ปาร์แตร์น้ำทั้งสองผืนสร้างขึ้นในปี 1685 สี่สิบห้าปีก่อนอุทยานน้ำที่ Studley Royal).

ภาพถ่ายของ Reinhard Görner จากเว็ปไซต์นี้
http://il.lumas.com/pictures/reinhard_goerner/parterre_deau/ 

Water tower หอคอยน้ำ เป็นอาคารที่เก็บแท็งค์น้ำหรือกักตุนน้ำ เพื่อใช้หล่อเลี้ยงบ้านและพื้นที่นั้นๆ. โดยทั่วไป หอคอยน้ำ ไม่เด่นเป็นพิเศษจนกลายเป็นอาคารประดับสวน. หอน้ำใหญ่ๆมักเป็นหอเก็บน้ำใช้ของเมือง เช่นที่เมืองชิคาโกในสหรัฐ ยังมีหอน้ำสมัยก่อนให้เห็นกลางเมือง. หอคอยน้ำที่นั่นเป็นแบบสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจด้วย เปิดให้เข้าไปชมได้ มีท่อน้ำขนาดยักษ์และเครื่องจักรเครื่องยนตร์ที่ทำหน้าที่เก็บและแจกจ่ายน้ำในต้นศตวรรษที่19.
หอคอยน้ำที่เมืองชิคาโก ภาพพิมพ์ในปี 1886.ข้อมูลภาพระบุไว้ว่า Chicaco Water Tower & Chicago Avenue Pumping Station, as published in 1886. ภาพไม่มีชื่อเจ้าของ unattributed [Public domain], via Wikimedia Commons.


Chicago Water Tower เป็นอาคารประวัติศาสตร์ของเมืองชิคาโก สร้างในปี 1869 เพื่อติดตั้งปั้มน้ำ ผันน้ำจากทะเลสาบมิชิแกนมาใช้ในเมือง. เป็นหอคอยน้ำที่เก่าเป็นที่สองในสหรัฐอเมริกา (หอคอยน้ำที่เก่าที่สุดคือ Louisville Water Tower, รัฐ Kentucky). สามภาพนี้ถ่ายไว้เมื่อราวยี่สิบกว่าปีก่อน ด้วยกล้องดิจิตัลโซนีรุ่นแรก(ที่ใช้ floppy disk สี่เหลี่ยมจัตุรัสในยุคนั้น ภาพไม่ชัด คุณภาพที่ได้ยังไม่ดี) แต่เป็นหลักฐานยืนยันว่าตอนนั้นหอคอยนั้นยังมีระบบเครื่องปั๊มน้ำและท่อน้ำขนาดหึมา. ปัจจุบันหอคอยนี้กลายเป็นหอศิลป์ (City Gallery in the Historic Water Tower). ตอนนั้นเข้าไปเดินดู ไม่พบเจ้าหน้าที่. เมื่อออกจากอาคารสถาปัตยกรรมกึ่งศตวรรษที่19 จึงเดินไปขึ้น Sears Tower (ชื่อจริงคือ The Willis Tower) ตึกระฟ้าที่อยู่ด้านหลัง. Sears Tower เริ่มสร้างในปี 1970 มี 110 ชั้น สูง 527 เมตร. เปิดใช้ในปี 1973. ลิฟต์ที่พาขึ้นไปชั้นสูงสุด(ยังไม่สุดถึงยอดตึกเพราะเหนือขึ้นไปเป็นที่ติดตั้งระบบสารพัดระบบ เขาไม่ให้ขึ้น. ชั้นสูงสุดที่บุคคลภายนอกไปถึงได้คือชั้น 110 เป็นชั้นสังเกตการณ์ (Observatory). ลิฟต์ที่นั่นเขาคุยว่าวิ่งเร็วที่สุดในโลก ประมาณ 490 เมตรต่อหนึ่งนาที. ใช้เวลาเพียง 1.07 นาทีเพื่อขึ้นไป 110 ชั้น. ตึกนี้สูงกว่า Twin Tower ของ World Trade Center ที่นิวยอร์ค 25 เมตร ก่อนที่จะถูกถล่มและเหลือเพียงชื่อในความทรงจำ.

Waterwheel  ล้อน้ำหรือกังหันน้ำ ใช้เบนกระแสน้ำให้ไปป้อนสระน้ำพุและทะเลสาบภายในสวน. กรณีของพระราชวังแวร์ซายส์เป็นที่รู้กันดี  มีล้อน้ำขนาดยักษ์ทั้งหมด 14 ล้อเพื่อบังคับสายน้ำจากแม่น้ำแซน (la Seine) ให้ไหลไปยังอ่างเก็บน้ำมาร์ลี (Aqueduc de Marly). อ่างเก็บน้ำนี้ ป้อนน้ำแก่แหล่งน้ำภายในพระราชวังทั้งหมด 1400 แห่ง.
กังหันขนาดใหญ่ทั้งหมด 14 เครื่องเพื่อผันน้ำจากแม่น้ำแซน
ขึ้นไปใช้พระราชวังแวร์ซายส์.
   ล้อน้ำหรือกังหันน้ำในขนาดย่อส่วน นิยมนำมาเข้าไปประดับสวนริมธารน้ำไหล  เป็นการสร้างบรรยากาศของยุคก่อนหรือทำให้นึกถึงจังหวะชีวิตที่ไม่รีบร้อนในชนบทต่างจังหวัดเป็นต้น. เช่นที่บ้านชนบทของพระราชินีมารีอ็องตัวแน็ตที่แวร์ซายส์ ก็จำลองกังหันน้ำประดับหน้ากระท่อมใหญ่สไตล์ชนบท.
บ้านกังหันน้ำที่บริเวณ Le Petit Trianon ส่วนหนึ่งของพื้นที่แวร์ซายส์ ที่สร้างเป็นหมู่บ้านชนบทสำหรับพระนางมารี อ็องตัวแน็ต (Versailles, France).  

Waterworks หมายถึงการควบคุมการกระจายระบบการหมุนเวียนของน้ำ.  เรื่องนี้ วิศวกรและนักออกแบบให้ความสนใจเป็นพิเศษ และนำไปใช้กับระบบน้ำพุน้ำตกในสวนอิตาเลียนและสวนฝรั่งเศส ทำระบบควบคุมให้น้ำพุทุกแห่ง  ไหลพุ่งออกได้พร้อมกันทั้งสวน. ปริมาตรของน้ำทั้งหมดที่ใช้นั้นมากเหลือคณา. ดูน้ำพุน้ำตกได้ในหัวข้อเรื่อง Fountain ตามลิงค์นี้.
การจัดโชว์น้ำพุประกอบดนตรีคลาซสิก(อิตาเลียนโดยเฉพาะ) ในห้วงน้ำขนาดยักษ์ หน้าโรงแรมขนาดยักษ์ทั้งหลาย เป็นสิ่งดึงดูดสำคัญอย่างหนึ่งของเมือง Las Vegas (ลาซเวกัซ). บางแห่งตั้งชื่อโรงแรมโดยโยงไปถึงสถานที่ชื่อดังในภูมิทัศน์อันสวยงามของประเทศอิตาลี เช่นโรงแรม Bellagio (Bellagio เป็นชื่อเมืองตากอากาศในแคว้น Lombardia ตั้งอยู่ติดทะเลสาบโก้โหมะ -Lago di Como ซึ่งเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ทอดยาว ใกล้พรมแดนประเทศสวิตเซอแลนด์  มีวิลลาพร้อมสวนที่สวยงามน่าชม คือ Villa Serbelloni และ Villa Melzi).
การจัดแสดง ดนตรีน้ำที่พระราชวังแวร์ซายส์ก็เรียกผู้ชมจากทุกมุมโลกเช่นกัน  เนื่องจากปริมาณน้ำที่ต้องใช้ในการแสดงนั้นมากเหลือคณา. การกักน้ำในแหล่งเก็บน้ำให้เต็ม ให้เพียงพอสำหรับเปิดพร้อมกันทุกสระและน้ำพุทุกแห่งนั้น จึงต้องใช้เวลาติดต่อกันหลายวัน. การแสดงดนตรีน้ำจึงมีเพียงในวันสุดสัปดาห์เท่านั้น(และในวาระพิเศษ). น้ำที่ใช้นั้นมิได้ทิ้งหายไปไหนแต่ถูกกลับนำมาใช้ในการดูแลพระราชอุทยานหมุนเวียนใช้เช่นนี้เสมอ.

Well-head โครงเหล็กประดับที่ติดอยู่กับบ่อน้ำและคร่อมอยู่เหนือบ่อน้ำที่มักเป็นหินอ่อนประดับด้วยรูปปั้นหินอ่อน. แบบง่ายๆในสมัยก่อน เป็นโครงเหล็กดัด มีขาตรึงบนขอบบ่อน้ำ ตัวโครงตั้งขึ้นสูงแบบซุ้มหลังคา มีถังน้ำติดกับลูกรอกตรึงตรงกลางบนยอดของโครงสร้าง ที่ตรงกับใจกลางของบ่อน้ำ. โครงเหล็กที่ครอบบ่อน้ำ แบบที่ประดิษฐ์อย่างสวยงาม นับเป็นเนรมิตศิลป์แบบหนึ่ง (ในหมวดศิลปะเหล็กดัด หรือ l’art du fer forgé). ศิลปะการตกแต่งประดับบ่อน้ำสืบทอดมาจากอิตาลี และเป็นแบบสร้างสรรค์ของสวนในประเทศอื่นๆ. มีเหมือนกันที่สร้างเป็นอาคารทั้งหลังคร่อมปกป้องบ่อน้ำลึกขนาดใหญ่โดยเฉพาะหากบ่อน้ำนั้นสำคัญสำหรับทั้งชุมชน เรียกอาคารแบบนี้ว่า well house.

Wilderness ในบริบทของสวน คือป่าหรือละเมาะที่มีทางเดินตัดทะลุผ่านพื้นที่ป่าผืนนั้น. เป็นการสร้างป่าให้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาบริเวณอันกว้างใหญ่ของอุทยาน. ปกติป่านี้มักอยู่ไกลจากอาคารที่อาศัย ไกลจากสวนแบบแผนที่เนรมิตไว้ใกล้ๆตัวบ้าน. การเนรมิตป่าภายในอุทยานหรือสวนขนาดใหญ่เพื่อให้มีทางเลือก ทางเดินที่ให้ความสุขความพอใจแบบต่างๆกัน. ผู้เดินสวนย่อมรู้สึกไม่เหมือนกันเมื่อเดินชมสวนดอกไม้ สวนสมุนไพร กับเมื่อเดินท่องไปในป่า. การเนรมิตป่าโยงไปถึงอุดมการณ์ที่ต้องการนำคนกลับไปสู่ในยุคแรกๆของสังคม กระตุ้นอารมณ์ผจญภัย และนำคนกลับไปใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น. ประเทศอังกฤษนิยมสร้างป่าเป็นพิเศษ โดยเฉพาะตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม เมื่อธรรมชาติถูกทำลาย เพื่อเปลี่ยนที่ดินให้เป็นแหล่งผลิตพืชเศรษฐกิจโดยไม่ใส่ใจกับระบบนิเวศ. เมื่อจำนวนประชากรพุ่งสูงขึ้น เมืองกลายเป็นป่าคอนกรีต. ความต้องการกลับเข้าใกล้ชิดธรรมชาติ จึงผลักดันให้มีการสร้างสวนและสร้างป่า. อย่างไรก็ดี ป่าภายในอุทยานใหญ่ๆ ก็ไม่ใช่ป่าจริงๆ ไม่มีสัตว์ป่าขนาดใหญ่อาศัยอยู่ในนั้น และเป็นป่าที่ถูกจัดให้สะดวกและปลอดภัย มีทางเดินภายในหลายทาง. เริ่มต้นด้วยเส้นทางตัดตรง ต่อมานิยมให้ทางวนไปวนมา จัดปลูกต้นไม้หรือโค่นถอนต้นไม้ออกบ้าง ปลูกพุ่มไม้ปนกับต้นไม้ใหญ่ ถางหญ้าบางบริเวณออกเมื่อต้องการสร้างมุมโปร่งโล่งสว่างภายในป่านั้น รวมทั้งการนำรูปปั้นไปแฝงไว้ในหมู่ไม้ ให้เกิดความรู้สึกว่า มีนางไม้หรือเทพ ผลุบๆโผล่ๆแอบดูอยู่เป็นต้น. ต้นศตวรรษที่ 19 ป่าคนสร้างแบบนี้ มีพันธุ์ไม้หลายชนิดขึ้นปะปนกัน เจตนาให้ดู ระเกะระกะตามธรรมชาติ.

Wild garden สวนป่า คำนี้ใช้หมายถึง
๑) สวนที่มีป่า มีทุ่งหญ้าและต้นไม้ที่ปล่อยให้ขึ้นตามธรรมชาติ หรือที่ดูเหมือนขึ้นตามธรรมชาติ
๒) เป็นคำที่ใช้เรียกสวนที่ตรงตามคำพรรณนาของ William Robinson ที่เขียนไว้ในหนังสือ The Wild Garden (1870) และที่ Gertrude Jekyll ได้อธิบายไว้เช่นกันในงานเขียนของเธอ. สรุปได้ว่า คำว่า wilderness (ความเป็นป่า) นั้นมิได้หมายถึง ความไม่มีระเบียบ หรือในกรณีของพรรณไม้ มิได้หมายถึงการใช้พืชพรรณป่าแท้ๆเท่านั้นในสวน แต่หมายถึงการนำพันธุ์ไม้เนื้อแข็งจากป่าและพันธุ์ที่คนเพาะและขยายพันธุ์ขึ้น มาปลูกปะปนกัน เหมาะกับสภาพที่ดิน. ต้นไม้เหล่านั้นส่วนใหญ่เจริญเติบโตได้เองตามธรรมชาติของมัน คนไม่ต้องคอยดูแลมากนัก.

Window box หมายถึงกระถางปลูกต้นไม้ทรงยาวสี่เหลี่ยมผืนผ้าเตี้ยๆ ที่วางไว้ใกล้หน้าต่าง ขนาดยาวไม่เกินความกว้างของหน้าต่าง เพื่อประดับหน้าต่างและเพื่อให้ต้นไม้ได้รับแสงแดด. มีพืชหลายชนิดที่สามารถขึ้นในกระถางแบบนี้ ตั้งแต่พันธุ์หญ้า พันธุ์หัว หรือแม้ต้นสนพันธุ์แคระ. แต่ที่นิยมปลูกกันมากเป็นพวกไม้ดอกที่บานในยามฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน เพิ่มสีสันแก่บ้าน. ในยุโรปเมื่ออากาศร้อน คนจะนำกระถางปลูกต้นไม้แบบนี้ออกไว้ข้างนอก บางทีเปิดหน้าต่างออกกว้าง เพื่อโชว์ดอกไม้ในกระถาง. เมื่ออากาศหนาวก็เก็บเข้าภายในหรือปิดหน้าต่างเสีย. บางทีเมื่อดอกไม้ร่วงเหี่ยวเฉาไปแล้ว ก็ดึงทิ้ง ปล่อยกระถางติดไว้ที่หน้าต่างไปจนฤดูปลูกดอกไม้ปีถัดไป.
กระถางดอกไม้ที่ประดับหน้าต่าง(และทุกที่ที่วางได้) ดอกไม้สีแดงๆ (เช่นดอกเจอเรเนียม-geranium) คนชอบมาก ปลูกง่าย บานตลอดฤดูร้อน. ภาพนี้ร้านอาหารริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา หมู่บ้าน Yvoire (France).
หมู่บ้านเดียวกันที่ไม่เปลี่ยนไปมากนักตั้งแต่ยุคกลาง 
ชื่อ Yvoire ริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา.
หอนาฬิกาที่เมือง Stein-am-Rhein ประดับกระถางดอกไม้ทุกหน้าต่างเพิ่มสีสันและเน้นความงามของสถาปัตยกรรม. บางบ้านก็ไม่เลี้ยงดอกไม้.
แนวโน้มปัจจุบันคือร้านอาหารใหญ่ๆและโรงแรม ยังประดับกระถางดอกไม้ที่หน้าต่างเป็นการเรียกลูกค้าวิธีหนึ่ง. ภาพนี้จากเขตเมืองเก่าที่ Strasbourg ฝรั่งเศส. อาคารด้านขวาคือภัตตาคารใหญ่แห่งหนึ่งของเมือง ส่วนอาคารที่อาศัยนั้นปล่อยไว้เรียบๆ.
บ้านชนบทในเยอรมนี ออสเตรีย สวิสฯ ถ้ามีเวลาและเงินเพียงพอ เขาก็ชอบที่จะประดับดอกไม้. ในหมู่บ้านเล็กๆบางแห่ง เขาตกแต่งผนังกำแพงด้านนอกของอาคารด้วยภาพจิตรกรรม โดยเฉพาะในถิ่นแดนบาวาเรีย คนบรรจงวาดภาพสวยงามประดับกำแพงแล้ว จึงไม่มีดอกไม้ประดับหน้าต่างดังตัวอย่างภาพข้างล่างนี้
ภาพนี้ถ่ายจากเมือง Garmisch-Partenkirken (Bavaria, Germany)

กระถางดอกไม้ประดับประตู หน้าต่าง ระเบียงและกำแพงตึกที่มีชื่อเสียงที่สุด ในซอยดอกไม้ (Calleja de las Flores) ที่เล็กและแคบมากที่สุดในเมือง Córdoba แต่ช่องว่างเหนือหลังคาบ้านมองจากซอยนี้ เห็นหอระฆังของมหาวิหารของเมือง (la Giralda de Córdoba). นักท่องเที่ยวต้องไปถ่ายรูปที่ซอยนี้ หน้าบ้านของคนที่อยู่แถวนั้น เกือบต้องปิดเป็นการถาวร เพราะนักท่องเที่ยวที่ไปกันเป็นกรุ๊ปทัวร์ เบียดกันในซอยนั้น(แทบจะขี่คอกัน).
ภาพนี้ถ่ายครั้งหลังสุดที่ไปในปี 2010 เวลา 13:43 กลุ่มทัวร์เมื่อแปดปีก่อนยังน้อยอยู่ และเวลานั้น เขาไปเข้าร้านอาหารกันหมดแล้ว.
กระถางปลูกดอกไม้ติดบนลูกกรงระเบียง เห็นได้ทั่วไปและโดยเฉพาะในสเปน. กระถางที่เห็นในภาพ ยังวาดแบบประตูสุเหร่าอาหรับที่กลายเป็นมหาวิหารในคริสต์ศาสนา เมื่อชาวอาหรับมัวร์ถูกขับออกไปจากประเทศสเปนในปลายศตวรรษที่ 15.
ภาพนี้จากเว็ป https://www.thespruce.com/window-box-flowers-for-shade-1315949.

Winter garden สวนไม้พันธุ์หนาว ใช้ในความหมายของ 
๑) บริเวณที่ปลูกพืชพันธุ์เขียวชอุ่มทั้งปี (evergreens) หรือพันธุ์ที่ให้ดอกในฤดูหนาว. สวนแบบนี้จึงเป็นที่จัดโชว์ต้นไม้ในฤดูหนาว บางทีก็เป็นโรงอภิบาลพืชพรรณไปด้วย. แต่ปัจจุบันความหมายดั้งเดิมของการสร้างเรือนกระจก เพื่อแสดงพืชพันธุ์ไม้ฤดูหนาวนั้นได้เลือนหายไปมาก.
๒) อาคารหรือเรือนกระจกขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นกระจก แสงแดดอบอุ่นจึงส่องเข้าไปได้ และก็กันลมกันหิมะด้วย จึงใช้จัดงานหรือนิทรรศการในระหว่างฤดูหนาว.

Woodland garden เป็นสวนที่สร้างขึ้นภายในพื้นที่ป่า. พื้นดินในสวนแบบนี้มีกรดมาก สำหรับเพาะปลูกพืชพรรณที่นำเข้าจากป่าต่างแดน โดยเฉพาะต้น camellias, magnolias, hydrangeas, rhododendrons.

สองภาพนี้จากสวน Shinjuku Gyo-en 新宿御苑 กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น. เป็นส่วนหนึ่งของสวนขนาดใหญ่กลางเมืองโตเกียว ทั้งสวนจัดอย่างมีแบบแผนสไตล์ญี่ปุ่น ไม่ใช่แบบ woodland garden ยุโรป.

Wrought iron เหล็กดัด. ในบริบทสวน มักหมายถึงประตูเหล็กดัด ความงามของลวดลายเหล็กดัดที่ประกอบเป็นประตูหรือสิ่งก่อสร้างอื่นที่ประดับสวน เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาสวนด้วยอย่างหนึ่ง. ดูตัวอย่างอื่นๆจากคำ Ironwork ในลิงค์นี้.
ตัวอย่างศิลปะเหล็กดัด เหนือประตูทางเข้าอาคารศาลากลางจังหวัดเก่าเมืองมิวนิค (Alte Rathaus, München). เป็น overthrow แบบหนึ่ง (ดูที่คำนี้). มองจากด้านในยังเห็นตราประจำเมืองของมิวนิค. เขาเพิ่มขุนนางสองคนขนาบสองข้าง.
ตราประจำเมืองมิวนิคแบบที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1957 (Großes Stadtwappen von München หรือ Coat of arms of Munich). ภาพของ Eduard Ege, 25 June 2013. [Public domain], via Wikimedia Commons.
ชั้นใต้พื้นของวัด Hofkirche ที่ประดิษฐานสุสานและโลงศพของกษัตริย์ที่เคยปกครองปรัสเซีย(ออสเตรีย). ประตูเหล็กดัดปิดพื้นที่ที่เป็นซุ้มลึก เป็นที่ตั้งของหีบศพหิน. เมือง Innsbruck, Austria. ลวดลายแบบแอเรอเบสก์(arabesque) มีแขกอาหรับสองคนในแบบโกรเต๊สก์ (grotesque). บนส่วนโค้งตรงกึ่งกลางมีรูปเทวดาขนาบสองข้างตราสัญลักษณ์ของราชตระกูล.

รั้วเหล็กเป็นซี่กรง ดีที่ไม่กั้นทิวทัศน์นอกพื้นที่เลย ยิ่งมีภูมิประเทศสวยงามต่อออกไป ไม่ว่าแม่น้ำ หรือทุ่งกว้าง เนินเขาที่ทอดไกลไป ทั้งหมดกลายเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สวนไปด้วย เป็นภูมิประเทศที่“ยืม”เข้ามาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ. สองภาพนี้คือรั้วที่ปราสาท Blenheim (Oxfordshire, UK) บางตอนก็ประดับอย่างวิจิตรงดงามเชิดชูตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์อังกฤษ.
เหล็กดัดประดับช่องระเบียง ของอาคารพระราชวัง Schönbrunn (เวียนนา) มองจากบนระเบียงปราสาท ลานกว้างหน้าพระราชวัง เขากำลังจัดพื้นที่เพื่อการแสดงศิลปะการขี่และควบคุมม้าของ Spanish Riding School ที่เป็นศูนย์ฝึกม้าที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เขาจัดการแสดงทุกปีที่นั่น.
ภาพจากเว็ป wien.info นี่คือด้านหน้าของพระราชวัง Schönbrunn กรุงเวียนนา. คนเข้าชมปราสาทจากตรงนี้ไม่ได้ ต้องไปเข้าทางด้านหลัง. พื้นที่ตรงหน้าของพระตำหนัก ที่เห็นบันไดสีขาวๆสองข้าง จึงปลอดผู้คน ขึ้นไปยืนถ่ายรูปหรือสังเกตการณ์ได้สะดวก.


LETTER X, Y, Z
Xystus มาจากคำกรีก xuxtos ที่แปลว่าพื้นราบเรียบ ใช้เป็นที่ออกกำลังกาย ตามความนิยมของชาวกรีก. ในบริบทของสวนและที่พบใช้เรียกสวนเมืองปอมเปอีประเทศอิตาลีนั้น หมายถึงพื้นที่เพาะปลูกพืชสวน.

Yuan , เป็นคำจีน แปลว่า สวน.  ดั้งเดิมคำนี้หมายถึงสวนป่าล่าสัตว์ของจักรพรรดิ. มีกำแพงสร้างจากโคลนปิดล้อมพื้นที่ทั้งหมด. เช่นเดียวกับความหมายของสวนในอารยธรรมทุกชาติ สวนเป็นพื้นที่ปิดล้อมเสมอ.

Zigzag (ซิกแซ็ก) หมายถึงทางเดินที่ทอดจากซ้ายไปขวา แล้วกลับมาซ้าย กลับไปขวา เช่นนี้ไปทั้งเส้นทาง ทำมุมหักแหลมไปโดยตลอด. การตัดเส้นทางซิกแซ็กแบบนี้เพื่อช่วยการขึ้นลงไหล่เขาที่ลาดเอียงหรือชันมาก. เส้นทางเดินแบบนี้หากมองเห็นได้จากที่ไกลๆออกไป เป็นสิ่งเสริมความงามและความยิ่งใหญ่ของสวนได้เช่นกัน.
ตัวอย่างบันไดซิกแซ็กที่อุทยานปราสาท Schallaburg ทิศใต้ของมหาวิหารเมือง Melk (ออสเตรีย). มหาวิหารที่นั่นสถาปนาขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่11 ตั้งโดดเด่นบนยอดเนินสูง เหนือแม่น้ำดานูบ (Danube). มีห้องสมุดขนาดใหญ่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ที่รวมหนังสือจารึกโบราณตั้งแต่ยุคกลาง. บางเล่มเป็นเล่มเดียวที่เหลือในโลก. เป็นศูนย์รวมความรู้จากโลกยุคโบราณ ที่ไม่เก่าหรือล้าสมัยอย่างที่คิดกัน เพราะยังมีอะไรอีกมากที่ปัญญาคนปัจจุบันยังเจาะไม่ถึง.

สองภาพนี้จาก Villa Carlotta (Lago Como, Italy)
เมื่อมองจากประตูใหญ่ขึ้นไปยังอาคารใหญ่ของวิลลา
และเมื่อมองลงมาจากบนระเบียง

Zoological garden สวนสัตว์. ปกติมักเรียกกันสั้นๆว่า zoo เป็นสวนที่อยู่ของสัตว์ ส่วนใหญ่เป็นสัตว์ที่มีในท้องถิ่นนั้นๆ. สวนสัตว์เป็นที่แสดงสัตว์และเป็นที่ศึกษาสังเกตเกี่ยวกับสัตว์ด้วยเช่นกัน เหมือนที่สวนพฤกษศาสตร์เป็นที่โชว์และที่ศึกษาวิจัยเรื่องต้นไม้พันธุ์ไม้. การเนรมิตสวนสัตว์มีมาแต่โบราณกาล แต่การตั้งชื่อและความเข้าใจเกี่ยวกับสวนสัตว์ดังที่เรารู้กันในปัจจุบันนั้น เริ่มในศตวรรษที่ 19. เมืองใหญ่ๆทั่วโลกมักมีสวนสัตว์ แม้ว่าบางทีมีปัญหาพื้นที่ เพราะตามหลักการ ควรมีอาณาบริเวณให้กว้างมากที่สุดเพื่อลดความรู้สึกว่าสัตว์ถูกขัง. อย่างไรก็ดี สัตว์แต่ละประเภทก็ยังอยู่ในบริเวณจำกัด แม้จะแยกจากสัตว์อื่น. ปกติสวนสัตว์เป็นสถานดึงดูนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน. สวนสัตว์แรกๆในยุโรปเป็นส่วนหนึ่งในบริเวณพระราชอุทยานเช่นที่ Schönbrunn กรุงเวียนนา มีสวนสัตว์ในเขตพระราชวัง.


จบอภิธานศัพท์

----------------------------------------- 
คำปรารภ Epilogue
เมนูหนังสือ ประมวลความรู้จากศัพท์อุทยานศิลป์
https://chotirosgardenterms.blogspot.com/2018/06/mygardenbook-menu.html

Comments